AI

AI

ข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง

Related news and articles

PostType Filter En

บทความ

ทักษะที่ควรพัฒนาเพื่อการอยู่รอดในตลาดแรงงาน 
ในโลกยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีด้านดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในการดำรงชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วไป รวมถึงการใช้ในการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ การเปิดตัวของ “ปัญญาประดิษฐ์นักสร้าง” หรือ “Generative AI” โดยเฉพาะ ChatGPT แชทบอทอัจฉริยะที่ถูกพัฒนาโดย OpenAI ที่มีจำนวนผู้ใช้งานทะลุ 100 ล้านคนต่อเดือนภายในเวลาหลังเปิดตัวเพียง 2 เดือน นับว่าเป็นแอปพลิเคชันที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ และนับวันจะยิ่งมีปัญญาประดิษฐ์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสามารถช่วยทำงานด้านต่าง ๆ ได้หลากหลาย และมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้มากขึ้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญในแวดวงต่าง ๆ จึงมีความกังวล และตั้งคำถามในทำนองที่ว่า “มนุษย์จะตกงานมากขึ้น จากการเข้ามาแทนที่ด้วย AI หรือไม่?” มนุษย์อย่างพวกเราในฐานะแรงงานจะปรับตัวอย่างไร มีทักษะใดที่ควรพัฒนาเพื่อความอยู่รอดบ้าง บทความนี้มีคำตอบ
9 June 2025

ข่าว

BDI แชร์มุมมองในงาน Huawei Thailand Digital & AI Summit 2025 ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Data-Driven Nation
29 พฤษภาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย ดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและประสานเครือข่าย ร่วมแชร์มุมมองในงาน Huawei Thailand Digital & AI Summit 2025 “Embrace AI, Ignite Future” ด้วยหัวข้อ Big Data and AI Ecosystem Powering the future with Data and AI มุ่งขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Data-Driven Nation อย่างแท้จริง ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ จัดโดย Huawei Cloud & AI APAC

ข่าว

BDI ร่วมเป็นวิทยากรในโครงการ May Series 2025 งานสัมมนาวิชาการและนวัตกรรมสุดล้ำแห่งปี
29 พฤษภาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย ดร.สุนทรีย์ ส่งเสริม รองผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ ขึ้นกล่าวปาฐกถาหัวข้อ Data Analytics for Proactive Government Services บนเวที eGovernment Forum ครั้งที่ 13 จัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) ณ โรงแรม เดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ ขณะเดียวกัน ดร.ประภาพรรณ วิภาตวิทย์ ผู้จัดการทีมวิจัยและนวัตกรรม ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม BDI ได้ร่วมเสวนาหัวข้อ Fireside Chat: Unlocking AI Value: Essentials for Building AI-Ready Data Ecosystems บนเวที AI & IOT Summit ครั้งที่ 7 ภายในงานดังกล่าว ผู้เข้าร่วมงานได้พบกับงานสัมมนาวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 60 ท่าน พร้อมสัมผัสนวัตกรรมสุดล้ำที่สุดแห่งปีกับ 4 โครงการหลัก ประกอบด้วย 🏢 eGovernment Forum ครั้งที่ 13 🔐 Privacy & Security Summit ครั้งที่ 6 🎓 Education Next Forum ครั้งที่ 10 💻 AI & IOT Summit ครั้งที่ 7 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ BDI ยังได้ร่วมออกบูทเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับภารกิจสถาบันฯ ที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูล สู่การเป็น Data-Driven Nation อย่างแท้จริง

ข่าว

ผอ.BDI เปิดมุมมองการบริหารให้กับผู้นำองค์กรยุคใหม่ด้วย Big Data & AI ในหลักสูตร LSP รุ่นที่ 16 จัดโดย IRDP
23 พฤษภาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “Data Management for Executive” ในหลักสูตร Leadership Succession Program หรือ LSP รุ่นที่ 16 โดยกล่าวถึงหลักการและแนวทางปฏิบัติในการบริหารจัดการเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการประยุกต์ใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารองค์กรอย่างมีทิศทาง ซึ่งมีผู้บริหารระดับสูงทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เข้าร่วมอบรมมมากกว่า 40 คน ณ สมาคมธรรมศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ หลักสูตรดังกล่าว จัดโดยมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐ (สพร.) หรือ Institute of Research and Development for Public Enterprises (IRDP) เพื่อพัฒนาศักยภาพในการเป็นผู้นำของผู้บริหารระดับสูง ให้มีความพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับสูงสุดขององค์กรยุคใหม่ ก้าวทันเทคโนโลยีที่ไม่หยุดนิ่งได้ต่อไป โดยหลักสูตรดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 พฤษภาคม – 8 สิงหาคม 2568

ข่าว

ผอ.BDI แชร์บทบาท Big Data & AI เปิดมุมมองการบริหารให้กับผู้นำองค์กรยุคใหม่ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในหลักสูตร Digital CEO #8 จัดโดย depa
23 พฤษภาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ Data and Digital Management ในหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 8 จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ณ โรงแรมเอส 31 ถนนสุขุมวิท เพื่อเปิดมุมมองผู้บริหารยุคใหม่ให้ขับเคลื่อนองค์กรก้าวทันอนาคตดิจิทัลที่ท้าท้ายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รศ. ดร.ธีรณี กล่าวว่า ความจำเป็นของระบบข้อมูลดิจิทัล จะช่วยให้รัฐบาลมีประสิทธิภาพมากขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ตั้งแต่การตัดสินใจที่แม่นยำ โดยใช้ข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึก ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนเพิ่มประสิทธิภาพในแต่ละขั้นตอนสู่การบริการสาธารณะที่รวดเร็วและตรงจุดมากขึ้น ซึ่งบทบาทของ AI และ Big Data เชื่อมโยงกันตัดกันไม่ขาด โดยใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น การพยากรณ์การลาออกของพนักงาน (HR Analytics) การจำแนกลักษณะผู้บริโภค (Customer Segmentation) การวิเคราะห์ความเสี่ยงทางสุขภาพ และโรคร่วม นอกจากนี้ยังเกิดการประยุกต์ AI ในทุกภาคส่วน ตั้งแต่ ภาคการเกษตร, สุขภาพ, การศึกษา, การท่องเที่ยว และความมั่นคง รศ. ดร.ธีรณี กล่าวอีกว่า ทุกองค์กรควรวางรากฐานการตัดสินใจด้วยข้อมูล (Data-Driven) เพราะข้อมูลเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจในทุกระดับ โดยกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลเริ่มตั้งแต่ การวิเคราะห์ในเชิงพรรณนา (Descriptive) สู่เชิงพยากรณ์ (Predictive) วางเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ (Optimization) โดย BDI ได้พัฒนาโครงการแพลตฟอร์มการเชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (ดีทู) หรือ Data Integration and Intelligence Platform (D-II) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาแพลตฟอร์มข้อมูลขนาดใหญ่ระดับประเทศ ที่ BDI มุ่งมั่นสร้างขึ้นเพื่อให้ข้อมูลจากทุกภาคส่วนสามารถเชื่อมโยง ใช้งาน และนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง หลักสูตรดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ให้สอดคล้องกับโลกยุคปัจจุบันและอนาคต เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับองค์กรของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหลักสูตรนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาร่วมบรรยายพิเศษพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เข้าอบรมอย่างใกล้ชิด รวมถึงได้ถอดแบบการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการศึกษาดูงานองค์กรต้นแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดทำนโยบายและแผนขับเคลื่อนองค์กรในอนาคตอย่างครบทุกมิติต่อไป

ข่าว

BDI จัดกิจกรรม OPEN HOUSE ลุยต่อเนื่อง "The UP 2025: Unlock Potential with Data -- Scaling up Business Program" ปีที่ 2 โปรแกรมเข้มข้นขึ้น เปิดรับ SMEs มากขึ้น
23 เมษายน 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI จัดกิจกรรม OPEN HOUSE ปลดล็อกธุรกิจให้เติบโต ด้วยพลังของข้อมูล! ภายใต้โครงการ “The UP 2025: Unlock Potential with Data — Scaling up Business Program” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท โดยมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังเกือบ 100 ราย โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุนทรีย์ ส่งเสริม รองผู้อำนวยการสถาบันฯ กล่าวเปิดงานและแนะนำวิสัยทัศน์ที่จะช่วย ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด หนึ่งในพันธกิจหลักของ BDI คือ การเป็นพาร์ตเนอร์ให้กับภาคธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs ในการผลักดันการใช้ข้อมูลให้กลายเป็นทรัพยากรสำคัญเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจ วางกลยุทธ์ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ข้อมูลในทุกมิติของธุรกิจ ตั้งแต่การเข้าใจลูกค้า การบริหารต้นทุน ไปจนถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ สู่การสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน ดร.สุนทรีย์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ The UP จะได้เรียนรู้การใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาธุรกิจของตนอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการประเมินศักยภาพและความพร้อมของแต่ละกิจการ มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ไปจนถึงการวางแผนการเก็บข้อมูล และบริหารจัดการข้อมูลอย่างเหมาะสมกับบริบทของกิจการ ซึ่งนำไปสู่การจัดทำ Data Roadmap ได้อย่างเป็นรูปธรรม จุดเด่นของโครงการ คือ การได้รับคำปรึกษาแบบรายกิจการที่ตอบโจทย์เฉพาะของแต่ละกิจการ พร้อมการทำงานร่วมกับ Mentor ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถมองเห็นทางเลือกใหม่ นำไปสู่การทดลองใช้เครื่องมือหรือแนวคิดใหม่ ๆ และนำไปใช้งานในระดับปฏิบัติการได้จริง ด้าน ดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและประสานเครือข่าย BDI กล่าวแนะนำโครงการ The UP 2025 ว่า จากความสำเร็จของปีที่ผ่านมา BDI จึงเดินหน้าจัดโครงการในปีนี้อย่างเข้มข้นขึ้น เปิดรับสมัครผู้ประกอบการมากขึ้น เพื่อเข้าร่วมโปรแกรมให้คำปรึกษาการใช้ประโยชน์จากข้อมูลสำหรับผู้ประกอบการ SMEs แบบเจาะลึก ผ่าน 4 กิจกรรมหลัก คือ บรรยากาศในงาน OPEN HOUSE ยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล มาร่วมแชร์ประสบการณ์ ไอเดียการบริหารงานกันอย่างเข้มข้น เริ่มต้นด้วยนายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา CEO & CO-FOUNDER บริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด, ดร.วินน์ วรวุฒิคุณชัย CEO บริษัท ไอบอทน้อย จำกัด และผู้ประกอบการ SMEs 3 บริษัท ที่เข้าร่วมโครงการจากปีที่แล้ว ปิดท้ายด้วยนางสาวสุภาวดี ตันติยานนท์ นายกสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย ร่วมบรรยายในหัวข้อ “Driving Business Growth with Data ขับเคลื่อนการเติบโตด้วยพลังของข้อมูล” นอกจากนี้ ภายในงานผู้ประกอบการยังให้ความสนใจแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านท่องเที่ยวแห่งชาติ National Tourism Intelligent Data Platform หรือ Travel Link อีก 1 โครงการหลักของ BDI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ที่ช่วยสนับสนุนข้อมูลให้กับผู้ประกอบการกำหนดกลยุทธ์ ดำเนินธุรกิจอย่างมีทิศทาง สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ “The UP 2025: Unlock Potential with Data — Scaling up Business Program” สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครฟรี! ได้ที่: www.bdi.or.th/theup2025    เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ – 14 พฤษภาคม 2568 เริ่มให้คำปรึกษาและพัฒนาแผนกลยุทธ์รายกิจการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2568

บทความ

การใช้ Big Data และ AI ในมุมมองของนักการตลาด
ในยุคที่ข้อมูลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญ การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานของนักการตลาดทั่วโลก โดยเทคโนโลยีทั้งสองนี้ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ทำไม Big Data และ AI ถึงเป็นตัวเปลี่ยนเกมในงานการตลาด? Big Data คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้นักการตลาดเข้าใจพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ในขณะที่ AI มาช่วยงานนักวิเคราะห์ข้อมูล ในการเปลี่ยนข้อมูลจำนวนมหาศาลเหล่านี้ ให้กลายเป็นคำตอบและกลยุทธ์ที่ใช้งานได้จริง การใช้ Big Data และ AI ในงานการตลาด มีดังนี้ ความท้าทายในการใช้ Big Data และ AI แม้ว่า Big Data และ AI จะมอบข้อได้เปรียบมากมาย แต่การนำมาใช้ยังมีความท้าทายบางประการ ได้แก่ แนวทางการนำ Big Data และ AI มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ บทสรุป Big Data และ AI ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับนักการตลาดในยุคปัจจุบัน การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าและตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ เช่น Netflix, Amazon, และ Coca-Cola ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเพิ่มผลลัพธ์ทางธุรกิจผ่านการใช้งานเทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด อย่างไรก็ตาม การใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวจำเป็นต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาความเข้าใจในด้านข้อมูลและการปฏิบัติตามหลักจริยธรรม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในระยะยาว การปรับตัวและการเรียนรู้จากตัวอย่างเหล่านี้จะช่วยให้นักการตลาดสามารถก้าวข้ามความท้าทายและใช้ประโยชน์จาก Big Data และ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในอนาคต แหล่งที่มา
10 March 2025

บทความ

Sustainable Organization กุญแจสำคัญสู่ความยั่งยืนขององค์กร หลักสูตรผู้บริหารที่ผู้บริหารยุคใหม่ต้องเรียนรู้  
การเป็นผู้บริหารยุคใหม่ ต้องมีการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ หลายองค์กรจึงให้ความสำคัญ กับ “หลักสูตรผู้บริหาร” เพื่อให้ผู้บริหารได้นำความรู้มาต่อยอดพัฒนาองค์กรในด้านต่าง ๆ จนสามารถนำทางให้องค์กรพัฒนาได้อย่างยั่งยืน ซึ่งหลังโลกได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และความไม่สงบที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ส่งผลให้องค์กรหลายแห่งเริ่มให้ความสนใจกับการทำตามหลักเกณฑ์ “เป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” หรือ SDGs ตามที่สหประชาชาติได้กำหนดไว้ เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว  การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Organization มีแนวคิดเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ หรือบริหารองค์กร ที่คำนึงถึงผลกระทบในระยะยาวต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่แค่มุ่งเน้นผลกำไรในระยะสั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าให้กับสังคมและโลกใบนี้ด้วย ดังนั้นองค์กรที่อยากเติบโตอย่างยั่งยืนจะสนใจแค่การดำเนินธุรกิจอย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป เพราะด้วยปัจจัยหลายด้านที่เข้ามาเป็นตัวแปรในการใช้ชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป หรือการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะเรื่องของ  AI และ Big Data จึงจำเป็นที่ผู้นำองค์กรต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลาและนำความรู้ไปพัฒนาบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปได้ ผู้นำองค์กรจึงเป็นคนกลุ่มแรกที่จะต้องเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองให้มี “ภาวะผู้นำที่ยั่งยืน”  ภาวะผู้นำที่ยั่งยืนคืออะไร  ภาวะผู้นำที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Leadership คือ ผู้นำที่สามารถหาทางแก้ไขปัญหาด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในองค์กรได้ อีกทั้งยังเป็นแรงผลักดันให้บุคลากรลงมือทำงานที่ช่วยส่งเสริมความยั่งยืนให้กับองค์กร ชุมชน และสังคม ผ่านการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจและการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรที่นำความยั่งยืนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย การมีผู้นำที่มี Sustainable Leadership ถือเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยยกระดับองค์กรให้เป็น Sustainable Organization ได้ ซึ่งคุณลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดของ ผู้นำที่มีภาวะผู้นำที่ยั่งยืน มีดังนี้  1. มีวิสัยทัศน์ และมองการณ์ไกล  ผู้นำที่มีภาวะผู้นำที่ยั่งยืน จะตั้งเป้าหมายที่เน้นความยั่งยืนในอนาคต ให้ความสำคัญกับผลกระทบในระยะยาว และสามารถสื่อสารวิสัยทัศน์ ค่านิยมให้คนในองค์กร และคนนอกองค์กรรับรู้ได้อย่างชัดเจน ไปในทิศทางเดียวกัน  2. มีมุมมองแบบองค์รวม พร้อมรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม  ผู้นำที่มีภาวะผู้นำที่ยั่งยืน จะตระหนักถึงผลกระทบของการดำเนินงานต่อชุมชนและธรรมชาติ มีการกำหนดกลยุทธ์ที่สนับสนุนแนวทางการพัฒนาที่ลดการใช้ทรัพยากร พร้อมทั้งส่งเสริม หรือการดำเนินกิจกรรมที่สร้างคุณค่า และประโยชน์แก่สังคม  3. เป็นนักพัฒนา ที่ให้ความสำคัญกับผู้คน  ผู้นำที่มีภาวะผู้นำที่ยั่งยืน จะสนับสนุนการพัฒนาทักษะและศักยภาพของทีมงาน ส่งเสริมความหลากหลายและการมีส่วนร่วมของทุกคนในองค์กร เน้นการดูแลสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและชุมชน  ทั้ง 3 ข้อ คือจุดเด่นของผู้นำองค์กรที่มีภาวะผู้นำที่ยั่งยืน ที่จะสามารถสร้างโอกาสให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ แต่ผู้นำยังมีบทบาทสำคัญอีกด้าน คือการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เพื่อให้การทำงานเร็วขึ้นและสนับสนุนแนวคิดรักษ์โลกและความยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน หรือที่เรียกว่า Sustainable Technology  การใช้เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนขององค์กร  เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน หรือ Sustainable Technology หมายถึง เทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจมากมาย ทั้ง Big Data, AI หรือ Machine Learning โดยเทคโนโลยีที่ยั่งยืนอาจมีตั้งแต่เทคโนโลยีทางกายภาพ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ ไปจนถึงซอฟต์แวร์ที่มีความซับซ้อน ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความยั่งยืนให้องค์กรได้ดังนี้  1. การลดการใช้พลังงานและส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน  2. การปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ยั่งยืน  3. การพัฒนาสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  4. การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มความยั่งยืน  5. การบริหารจัดการภายในองค์กร  การนำ Sustainable Technology มาใช้ในธุรกิจไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและสร้างคุณค่าให้แก่องค์กรในระยะยาว   จากข้อมูลที่นำเสนอมาเบื้องต้น จะเห็นได้ว่าการสร้าง Sustainable Organization เป็นกุญแจสำคัญที่ส่งผลต่อภาพรวมขององค์กร ที่ผู้นำหรือผู้บริหารต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้ เพื่อสามารถนำมาพัฒนาองค์กรได้อย่างยั่งยืนในทุกมิติ   และสำหรับผู้ที่ต้องการความรู้ในการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนแบบเจาะลึก ขอแนะนำหลักสูตร  LEAD Big Data And AI For Sustainable Future   หลักสูตรผู้บริหาร ที่ออกแบบมาสำหรับผู้บริหารยุคใหม่ เพื่อยกระดับความรู้และศักยภาพเกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อนำไปพัฒนานโยบายการดำเนินงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้สูงยิ่งขึ้น ผ่านการเรียนรู้ พัฒนาแนวคิด ลงมือทำจริง พร้อมดูงานกับบริษัทระดับโลกในต่างประเทศ  โดย LEAD จัดโดยสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ สขญ. แหล่งรวมผู้เชี่ยวชาญด้าน Big Data และ AI ที่มีภารกิจขับเคลื่อนให้องค์กรต่าง ๆ ในประเทศใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเกิดการบูรณาการข้อมูลระหว่างกัน โดยมุ่งเน้นให้ผู้นำองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลและเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว เห็นผล ผ่านการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในวงการชั้นนำของประเทศ พร้อมมีที่ปรึกษาจาก สขญ. คอยดูแลให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดตลอดหลักสูตร   รีบจองที่นั่ง Early Bird ได้แล้ววันนี้   ราคา 189,900 บาท จากราคาปกติ 209,900 บาท  (รวมศึกษาดูงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ)   ท่านสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อลงทะเบียนหลักสูตรได้ที่: https://forms.gle/QFW229rG7cbjx53R6   ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Email: businesspromotion@bdi.or.th หรือ โทร: 02 480 8833 ต่อ 9552 และ 9579   สนใจดูรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมคลิก LEAD2 – Big Data Institute  แหล่งอ้างอิง :  https://instituteofsustainabilitystudies.com/insights/lexicon/what-are-the-core-principles-of-sustainable-leadership https://www.bain.com/insights/ai-and-sustainability-power-of-integration-ceo-sustainability-guide-2024 https://www.ibm.com/topics/business-sustainability https://wdhb.com/blog/sustainable-leadership
26 November 2024

บทความ

10 ทิศทางสำคัญที่ผู้บริหารควรเรียนรู้ในปี 2025 เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ
? เตรียมพร้อมสู่ปี 2025: 10 กลยุทธ์ที่ผู้บริหารต้องเรียนรู้เพื่อความยั่งยืนในธุรกิจ  ในปี 2025 โลกธุรกิจจะเผชิญกับความท้าทายใหม่ที่ผู้บริหารจำเป็นต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ความยั่งยืน (Sustainability) จะยังคงเป็นหัวใจหลักที่กำหนดทิศทางการเติบโตขององค์กร และความสามารถในการปรับตัวนี้จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในระยะยาว บทความนี้จะนำเสนอ 10 เรื่องที่ผู้บริหารควรเรียนรู้เพื่อความสำเร็จและความยั่งยืนในอนาคต  1. การเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยี AI เชิงยั่งยืน ?  ในยุคที่ AI และ Big Data กำลังเป็นเครื่องมือสำคัญในการพลิกโฉมธุรกิจ ผู้บริหารต้องเข้าใจการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในองค์กรอย่างมีจริยธรรมและยั่งยืน หลักสูตร LEAD รุ่นที่ 2 ช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจถึงการประยุกต์ใช้ AI ที่ไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังสร้างความไว้วางใจในลูกค้าและสังคม  2. การจัดการความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน (Sustainable Supply Chain) ?  ผู้บริหารควรมีความเข้าใจในกระบวนการของ ห่วงโซ่อุปทาน ที่ยั่งยืน โดยสามารถนำ Big Data มาใช้ในการตรวจสอบแหล่งวัตถุดิบที่มีความรับผิดชอบ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต รวมถึงการเลือกใช้ซัพพลายเออร์ที่มีจรรยาบรรณและความรับผิดชอบต่อสังคม  3. การเสริมสร้างความสามารถในการปรับตัว (Adaptability Skills) ?  การเปลี่ยนแปลงในสภาพตลาดและเทคโนโลยีที่รวดเร็วจำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารที่เข้าร่วมหลักสูตร LEAD จะได้รับทักษะในการใช้ Big Data และ AI เพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและทำนายความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว  4. การนำ ESG (Environment, Social, Governance) มาใช้ในกลยุทธ์องค์กร ?  หลักสูตร LEAD รุ่นที่ 2 มุ่งเน้นให้ผู้บริหารเข้าใจการบูรณาการแนวคิด ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล) เข้ากับกลยุทธ์การบริหาร โดยใช้ AI และ Big Data ในการวัดผลกระทบจากกิจกรรมองค์กรที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้สามารถพัฒนากลยุทธ์ที่ยั่งยืนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและลูกค้า  5. ความปลอดภัยทางไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูล (Cybersecurity) ?  ด้วยการใช้ AI และ Big Data ในการบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ ความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญ หลักสูตร LEAD รุ่นที่ 2 จะช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจการปกป้องข้อมูลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการป้องกันและตอบสนองต่อการโจมตีทางไซเบอร์  6. ความเป็นผู้นำในยุคการทำงานแบบไฮบริด (Leadership in a Hybrid Workplace) ?‍?  การทำงานในรูปแบบ hybrid ที่ผสมผสานการทำงานทั้งออฟไลน์และออนไลน์เป็นแนวโน้มใหม่ในอนาคต ผู้นำต้องเข้าใจการจัดการทีมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ Big Data ในการประเมินการทำงานและสร้างความร่วมมือระหว่างทีมงานจากหลากหลายสถานที่  7. การสร้างความโปร่งใสในการทำงานและธุรกิจ (Transparency and Accountability)  ความโปร่งใสและการมีความรับผิดชอบเป็นพื้นฐานของการทำธุรกิจที่ยั่งยืน Big Data ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตรวจสอบและเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจในองค์กร โดยสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เน้นความโปร่งใสและมีความรับผิดชอบ  8. การใช้พลังงานทางเลือกและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก⚡  การนำ Big Data และ AI มาใช้ในการวิเคราะห์และพัฒนาแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นสิ่งที่ผู้บริหารต้องคำนึงถึงในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความยั่งยืน หลักสูตร LEAD จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานทางเลือกและลดการปล่อยคาร์บอน  9. การพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่อง (Continuous Learning and Development) ?  ในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืน ผู้บริหารต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากร โดยการใช้ AI เพื่อวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมฝึกอบรมที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและเทคโนโลยี  10. การสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง (Continuous Innovation) ?  การสร้างนวัตกรรมที่ต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตในยุคที่การแข่งขันสูง AI และ Big Data สามารถช่วยในการค้นหาความท้าทายใหม่ ๆ และนำเสนอนวัตกรรมที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างทันเวลา  ? ปี 2025 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวสำหรับผู้บริหารที่ต้องการนำองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ความเข้าใจใน 10 เรื่องสำคัญจะช่วยให้ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและปรับกลยุทธ์ได้ทันสมัย ตั้งแต่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI การจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน ไปจนถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับการทำงานแบบไฮบริด การเพิ่มทักษะการนำองค์กรในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริหารสามารถก้าวนำและรับมือกับความท้าทายในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน  เพิ่มโอกาสในการพัฒนาทักษะเพื่อก้าวนำในยุคที่การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วนั้นอยู่ที่นี่แล้ว อย่าพลาด! สมัครเรียนหลักสูตร LEAD: Big Data and AI for Sustainable Future (LEAD รุ่นที่ 2) เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นผู้นำยุคใหม่ที่พร้อมเผชิญความท้าทายและสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืน  ? รีบจองที่นั่ง Early Bird ได้แล้ววันนี้   ราคา 189,900 บาท จากราคาปกติ 209,900 บาท (รวมศึกษาดูงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ)  ?ศึกษารายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม: https://bdi.or.th/executive-course/  ?ท่านสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อลงทะเบียนหลักสูตรได้ที่: https://forms.gle/QFW229rG7cbjx53R6  ? ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Email: businesspromotion@bdi.or.th หรือ โทร: 02 480 8833 ต่อ 9552 และ 9579  บทความโดย เบญญาภา ราชแก้ว
15 November 2024
PDPA Icon

We use cookies to optimize your browsing experience and improve our website’s performance. Learn more at our Privacy Policy and adjust your cookie settings at Settings

Privacy Preferences

You can choose your cookie settings by turning on/off each type of cookie as needed, except for necessary cookies.

Accept all
Manage Consent Preferences
  • Strictly Necessary Cookies
    Always Active

    This type of cookie is essential for providing services on the website of the Personal Data Protection Committee Office, allowing you to access various parts of the site. It also helps remember information you have previously provided through the website. Disabling this type of cookie will result in your inability to use key services of the Personal Data Protection Committee Office that require cookies to function.
    Cookies Details

  • Performance Cookies

    This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

  • Functional Cookies

    This type of cookie enables the Big Data Institute (Public Organization)’s website to remember the choices you have made and deliver enhanced features and content tailored to your usage. For example, it can remember your username or changes you have made to font sizes or other customizable settings on the page. Disabling these cookies may result in the website not functioning properly.

  • Targeting Cookies

    "This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

Save settings
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.