ยาที่ถูกพัฒนาโดยระบบปัญญาประดิษฐ์ถูกนำมาใช้ในมนุษย์เป็นครั้งแรก

ยาที่ถูกพัฒนาโดยระบบปัญญาประดิษฐ์ถูกนำมาใช้ในมนุษย์เป็นครั้งแรก

27 มีนาคม 2563

เราอาจจะเคยได้ยินถึงขีดความสามารถของระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ในอนาคตอาจจะเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์แทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไร้คนขับที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนคนขับแทกซี่หรือจะมาแย่งงานคุณหมอในการวินัจฉัยผู้ป่วยด้วย แม้กระทั่งในวงการเกมและกีฬาที่ AI อย่าง Google DeepMind สามารถเล่นหมากล้อมเอาชนะมือหนึ่งของโลกอย่างลีเซดอลไปได้ หรือ OpenAI ที่เอาชนะทีมผู้เล่นแชมป์โลกในเกม DotA 2 นอกจากนี้ยังมีบทบาทในกลุ่มงานความคิดสร้างสรรค์ เช่น เขียนบทความเองได้ แต่งเพลงเองก็ได้ด้วย จะเห็นได้ว่าขีดจำกัดของ AI นั้นไม่สามารถคาดเดาได้จริง ๆ

ล่าสุด AI ก็เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมการผลิตยา โดยนักวิจัยได้ใช้ระบบ AI มาช่วยค้นหาโมเลกุลสำหรับตัวยา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ยาที่ถูกค้นพบด้วยคอมพิวเตอร์นั้นจะถูกนำมาทดลองในมนุษย์ ซึ่งยาตัวนี้ถูกผลิตโดยบริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติอังกฤชื่อว่า Exscientia โดยร่วมมือกับบริษัทยาจากญี่ปุ่น Sumitomo Dainippon Pharma ยาตัวนี้จะถูกนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำ หรือ obsessive-compulsive disorder (OCD) ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคนี้นับเป็น 2% ของประชากรทั้งโลก

ซึ่งปกติแล้วกระบวนการพัฒนายาจะกินเวลาถึงห้าปีจึงจะถึงระยะที่จะนำมาทดลองใช้จริงในมนุษย์ได้ แต่ AI ใช้เวลาเพียงแค่ 12 เดือนเท่านั้น โดยศาสตราจารย์แอนดริว ฮอปคินส์ CEO ของ Exscienta กล่าวว่ามันถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมการค้าหาตัวยา ที่ผ่านมาเราอาจเคยได้ยินการใช้ AI วินิจฉัย วิเคราะห์ข้อมูล และสแกนผู้ป่วย แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ AI จะได้ทำงานโดยตรงในการรักษาผู้ป่ายผ่านตัวยาที่คิดค้นขึ้นมาใหม่

โมเลกุลนี้ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า DSP-1181 ถูกสร้างโดยการใช้อัลกอริธึมที่ไปควานหาสารประกอบหลายชนิดที่ระบบวิเคราะห์แล้วว่าความเป็นได้สูงที่จะนำมาใช้เป็นยาได้และนำไปทดสอบกับตัวแปรจำนวนมากที่เก็บบันทึกในฐานข้อมูลขนาดยักษ์ ซึ่งระบบ AI นี้จะต้องใช้การตัดสินใจเป็นพันล้านครั้งเพื่อที่จะเสาะหาโมเลกุลที่ถูกต้องเพียงโมเลกุลเดียว โดยเฉพาะถ้าเราต้องการพัฒนายาให้แม่นยำที่สุด แต่ความงดงามของอัลกอริธึมนี้ก็คือมันสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการผลิตยาเพื่อสำหรับโรคอะไรก็ได้ศาสตราจารย์ฮอปคินส์กล่าว

โดยตัวยานี้จะถูกนำไปทดลองในระยะแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็จะนำไปทดลองในทั่วโลก ตอนนี้ทางบริษัทก็กำลังดำเนินการพัฒนายาสำหรับการรักษามะเร็งและโรคหัวใจหลอดเลือด และหวังที่จะค้นพบตัวยาที่พร้อมทดลองใช้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งถ้าการทดสอบยาเป็นได้ดีก็เท่ากับว่า AI ได้ปฏิวัติวงการเภสัชกรรมไปอย่างสิ้นเชิง โดยคาดว่าภายในทศวรรษนี้ยาชนิดใหม่ทุกชนิดจะไม่ได้ถูกคิดค้นโดยมนุษย์อีกต่อไปแต่จะเป็นผีมือของ AI ทั้งหมด

แหล่งที่มา BBC

แบ่งปันบทความ

กลุ่มเนื้อหา

แท็กยอดนิยม

แจ้งเรื่องที่อยากอ่าน

คุณสามารถแจ้งเรื่องที่อยากอ่านให้เราทราบได้ !
และเราจะนำไปพัฒนาบทความให้มีเนื้อหาที่น่าสนใจมากขึ้น

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ “นโยบายคุ้กกี้” และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ “ตั้งค่า”

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ BDI ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ BDI รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ BDI ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ BDI ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ BDI จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ BDI ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ BDI แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.