BDI ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชนจังหวัดภูเก็ต ชู 3 แพลตฟอร์ม ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองด้วยเทคโนโลยี BIG DATA และ AI วางโรดแมปสู่การเป็นเมืองต้นแบบ ด้านความยั่งยืนในทุกมิติ

BDI ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชนจังหวัดภูเก็ต ชู 3 แพลตฟอร์ม ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองด้วยเทคโนโลยี BIG DATA และ AI วางโรดแมปสู่การเป็นเมืองต้นแบบ ด้านความยั่งยืนในทุกมิติ

24-25 พฤศจิกายน 2567, ภูเก็ต – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI หน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงทิศทางการดำเนินงานและความร่วมมือในการใช้ประโยชน์จาก Big Data และ AI เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม วางยุทธศาสตร์ ชู 3 แพลตฟอร์มร่วมบูรณาการพัฒนาเมืองภูเก็ตอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ได้แก่ โครงการแพลตฟอร์มบริการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Envi Link) โครงการแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านท่องเที่ยวแห่งชาติ (Travel Link) และ โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มข้อมูลเมืองอัจฉริยะ (Smart Data Analytics Platform) พร้อมประกาศเดินหน้าขยายความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อวางโรดแมป ผลักดันจังหวัดภูเก็ตสู่การเป็นเมืองต้นแบบด้านความยั่งยืนในทุกมิติอย่างสมบูรณ์แบบ

ทั้งนี้ในงานแถลงทิศทางการดำเนินงานและความร่วมมือของ BDI ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้รับเกียรติจากนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกเทศมนตรีเทศบาลนครภูเก็ต สำนักงานสถิติจังหวัดภูเก็ต และผู้แทนจากสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต มูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สาขาภาคใต้ตอนบน ตลอดจนภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมงานดังกล่าว เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนมุมมองส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ ขับเคลื่อนจังหวัดอย่างมีทิศทาง

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า งานแถลงข่าววันนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่แสดงถึงความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ของจังหวัดภูเก็ต ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีศักยภาพสูง ทั้งในด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ การนำ Big Data มาใช้เพื่อวางแผนและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม จะช่วยเสริมสร้างโอกาสในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัด ทั้งนี้ทุกภาคส่วนในพื้นที่ ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคมล้วนให้ความร่วมมือกันอย่างสามัคคี สะท้อนถึงความพร้อมในการร่วมใจกันที่อยากจะเห็นพื้นที่ของตนเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุก ๆ ด้าน

รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ เปิดเผยว่า ภารกิจสำคัญของ BDI คือ การกำหนดยุทธศาสตร์ในการนำประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data ที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์มาขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการส่งเสริมและแสวงหาความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ และนำไปสู่การพัฒนาเมืองในมิติต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับจังหวัดภูเก็ต ในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางอันมีชื่อในหมู่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากจะนำเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเข้าสู่ประเทศซึ่งก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ดีสิ่งหนึ่งที่เป็นผลสืบเนื่องจากการส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการใช้ทรัพยากรเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ตัวอย่างเช่น ปริมาณการใช้รถ ใช้ถนนเพื่อเดินทางสัญจรไปยังสถานที่ต่างๆ  ปริมาณการใช้ไฟฟ้า ใช้น้ำ ที่มีความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้นเพื่อให้เพียงพอรองรับความต้องการของจำนวนนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังรวมถึงปัญหาขยะอันเนื่องมาจากการบริโภคของคนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ แต่ละกิจกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลให้เกิดคาร์บอนฟุตพรินต์ในปริมาณที่มากน้อยแตกต่างกันไป และจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการที่เป็นระบบเพื่อให้สามารถลดปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนในภาพรวมที่มีประสิทธิภาพ

ตามที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตทั้งนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่และผลกระทบทางเศรษฐกิจของจังหวัด BDI จึงได้จัดตั้งโครงการแพลตฟอร์มบริการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Envi Link ได้ร่วมกับ มูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน เทศบาลนครภูเก็ต และ ชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต จัดทำ “โครงการความเป็นกลางทางคาร์บอน เมืองเก่าภูเก็ต” โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาจังหวัดภูเก็ตสู่ต้นแบบเมืองท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ พร้อมตั้งเป้าลดคาร์บอน 30% ภายใน 3 ปี ก่อนจะขยายผลไปยังจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ ต่อไป

ภายใต้โครงการดังกล่าว BDI ได้มีบทบาทสำคัญในการรวบรวมข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมในด้านต่าง ๆ ที่ช่วยตอบคำถามด้านสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ จัดทำเป็นรายงานสถานการณ์สภาพแวดล้อม เช่น คุณภาพน้ำ คุณภาพอากาศของพื้นที่ นอกจากนี้ยังได้ประมวลผลข้อมูลกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลสำคัญต่อคาร์บอนฟุตพรินต์ อันได้แก่ ปริมาณการใช้น้ำประปา การใช้ไฟฟ้า การบริหารจัดการขยะ ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ ซึ่งในส่วนของปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงนี้เอง ที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีส่วนสำคัญที่ช่วยให้สามารถประเมินคาร์บอนฟุตพรินต์อย่างง่าย ผ่านการใช้ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) มาพัฒนาโมเดลจำแนกประเภทยานพาหนะกลุ่มที่ใช้น้ำมันดีเซล เช่น รถบรรทุก รถกระบะ ฯลฯ ออกจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งได้แก่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทั่วไป แล้วนับจำนวนรถแต่ละประเภทที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ก่อนจะประมาณการให้กลายเป็นปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้แล้วคำนวณให้เป็นคาร์บอนฟุตพรินต์อันเกิดขึ้นสืบเนื่องจากกิจกรรมดังกล่าว ข้อมูลดังกล่าวจะถูกประมวลผลร่วมกันกับข้อมูลคาร์บอนฟุตพรินต์จากกิจกรรมอื่น ๆ และถูกนำเสนอผ่านแดชบอร์ดแสดงผลข้อมูลซึ่งช่วยให้เห็นคาร์บอนฟุตพรินต์ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาต่าง ๆ กัน ช่วยให้หน่วยงานและคนในพื้นที่สามารถเห็นแนวโน้ม และทิศทางการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สามารถวางแผนการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมต่อไป

ภายใต้โครงการนี้ ยังได้มีการนำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้นับจำนวนคนที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตย่านเมืองเก่า เพื่อใช้ประมาณการความหนาแน่นของนักท่องเที่ยว ในช่วงเวลา และวันที่แตกต่างกัน อันจะช่วยให้เกิดการบริหารจัดการพื้นที่ที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังได้มีแผนต่อยอดการใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานในแง่มุมต่างๆ สำหรับพื้นที่เพิ่มเติม โดยได้มีการทำงานร่วมกับ บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด (Phuket City Development Co., Ltd.: PKCD) ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ประกอบภาคเอกชนที่มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเมืองภูเก็ตให้เติบโตอย่างยั่งยืน หนึ่งในบริการสำคัญของบริษัท ได้แก่ การให้บริการ Smart Bus EV แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในย่านพื้นที่เมืองเก่า ภายใต้เป้าหมายที่จะช่วยลดปัญหาความหนาแน่นของการจราจรและลดมลพิษทางอากาศตัวเมือง โดย BDI ได้นำข้อมูลภาพ CCTV และข้อมูล GPS บนรถบัส มาใช้ประมาณการจำนวนผู้โดยสารของแต่ละจุดจอดตามช่วงเวลาต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอแนะการวางตำแหน่งจุดจอดรถ หรือ ตารางเดินรถ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากโครงการ Envi Link ซึ่งมุ่งเน้นในเรื่องของการส่งเสริมการใช้ข้อมูลเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญแล้ว BDI ยังได้ดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้จังหวัดภูเก็ต เป็นต้นแบบของความยั่งยืนในด้านการท่องเที่ยว โดยมีการประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านท่องเที่ยวแห่งชาติ หรือ Travel Link ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเชื่อมข้อมูลท่องเที่ยวให้ถึงกันผ่าน www.travellink.go.th จากความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนกว่า 20 หน่วยงาน เพื่อขยายขีดความสามารถและการแข่งขันให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่มีแดชบอร์ดข้อมูลท่องเที่ยวมากกว่า 150 แดชบอร์ด ซึ่งนอกจากจังหวัดภูเก็ตแล้ว ยังครอบคลุมอีกกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศ

ภายใต้การดำเนินงานของโครงการ Travel Link นั้น BDI ได้รวบรวมข้อมูลของการเดินทาง การพักแรม การใช้จ่าย และกระแสจากสื่อโซเชียล มาทำการวิเคราะห์ให้ทราบถึงการแสดงความคิดเห็นของนักท่องเที่ยว จำนวนผู้มาเยี่ยมเยือน สถิติผู้โดยสารผ่านสนามบิน และยังมีการแสดงผลสถิติผ่านอินโฟกราฟิก ที่อัปเดตรายวันและรายเดือน ซึ่งทำให้เห็นภาพรวมของข้อมูลได้ง่ายขึ้น สามารถช่วยผู้ประกอบการในการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาได้ดียิ่งขึ้น เพื่อทำให้เกิด Sustainable Tourism สามารถเพิ่มรายได้ให้กับภาคเอกชนที่ร่วมใช้ประโยชน์ข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Travel Link มีมูลค่ามากกว่า 120 ล้านบาทต่อปี รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ประกอบในการกำหนดนโยบายระดับประเทศ เช่น การนำข้อมูลการท่องเที่ยวจากโครงการ Travel Link ที่กำหนดนโยบายฟรีวีซ่า (Free Visa) ให้กับประเทศจีน และประเทศคาซัคสถาน ทั้งนี้จากนโยบายฟรีวีซ่าทำให้มีนักท่องเที่ยวมากขึ้นกว่าปี 2023 โดยมีมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านบาท 

ในด้านการสนับสนุนการเป็นเมืองอัจฉริยะของจังหวัดภูเก็ตนั้น BDI ได้ร่วมมือกับ สำนักงานสถิติจังหวัดภูเก็ต ผ่านโครงการแพลตฟอร์มข้อมูลเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart Data Analytics Platform เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐด้วยกัน และภาครัฐกับภาคเอกชน เพื่อให้เกิดระบบข้อมูลกลาง และนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการวางแผนงานที่ตอบรับกับนโยบายของจังหวัด โดยโครงการฯ จะรวบรวม เชื่อมโยง จัดเก็บ ประมวลผลข้อมูล เช่น ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ด้านสุขภาพ ด้านสิ่งแวดล้อม มาใช้ในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาให้ตรงกับความต้องการของเมืองได้อย่างทันท่วงที พร้อมนำไปสู่การต่อยอดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างเป็นรูปธรรม โดยในระยะแรกได้ออกแบบพิมพ์เขียวและสถาปัตยกรรมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาคลาวด์ พร้อมอบรมและสาธิตการใช้งานคราวด์และแดชบอร์ดให้กับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานในจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้บริการและวางแผนการดำเนินงานในปัจจุบันและอนาคต ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

“ทิศทางการดำเงินงานของ BDI ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต ยังคงมุ่งเน้นส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ในการพัฒนาเมืองอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะยกระดับขยายความร่วมมือไปยังภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนให้กว้างยิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถรองรับและตอบโจทย์กับการใช้งานในพื้นที่ได้อย่างสูงสุด โดยมีเป้าหมายสำคัญที่จะทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองต้นแบบด้านความยั่งยืนและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับจังหวัดอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต” รศ. ดร.ธีรณี กล่าว

Public Relations and Communication Specialist
Big Data Institute (Public Organization), BDI

Share This News

PDPA Icon

We use cookies to optimize your browsing experience and improve our website’s performance. Learn more at our Privacy Policy and adjust your cookie settings at Settings

Privacy Preferences

You can choose your cookie settings by turning on/off each type of cookie as needed, except for necessary cookies.

Accept all
Manage Consent Preferences
  • Strictly Necessary Cookies
    Always Active

    This type of cookie is essential for providing services on the website of the Personal Data Protection Committee Office, allowing you to access various parts of the site. It also helps remember information you have previously provided through the website. Disabling this type of cookie will result in your inability to use key services of the Personal Data Protection Committee Office that require cookies to function.
    Cookies Details

  • Performance Cookies

    This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

  • Functional Cookies

    This type of cookie enables the Big Data Institute (Public Organization)’s website to remember the choices you have made and deliver enhanced features and content tailored to your usage. For example, it can remember your username or changes you have made to font sizes or other customizable settings on the page. Disabling these cookies may result in the website not functioning properly.

  • Targeting Cookies

    "This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

Save settings
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.