Health Link

Health Link

ข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง

Related news and articles

PostType Filter En

บทความ

BDI เดินหน้าพัฒนา “HealthLink” แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพระดับประเทศ เชื่อมโยงกว่า 8,000 หน่วยบริการ พร้อมดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง
25 กันยายน 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย นพ.ธนกฤต จินตวร First Executive Vice President ร่วมเสวนาหัวข้อ Towards Interoperable Digital Health: Sharing Data While Safeguarding Trust ภายในงานสัมมนา Healthcare Technology Summit 2025 ภายใต้แนวคิดUnlocking the Last Mile of Responsible Al for Healthcare จัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) และสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) ณ ห้อง Mayfair Ballroom โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ นพ.ธนกฤต กล่าวถึงความคืบหน้าของ โครงการ Health Linkว่า โครงการถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อตอบโจทย์ปัญหาสำคัญของระบบสาธารณสุขไทย การที่ข้อมูลผู้ป่วยไม่สามารถตามตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลปลายทางได้ทันเวลา ส่งผลให้การรักษาไม่ต่อเนื่องและการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แพลตฟอร์ม Health Link สามารถทำให้ข้อมูลสุขภาพเดินทางไปพร้อมกับคนไทยทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการย้ายโรงพยาบาล การเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือแม้กระทั่งการรักษาในต่างประเทศ แพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น ประวัติการแพ้ยา วัคซีน การวินิจฉัย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ และภาพถ่ายทางการแพทย์ได้อย่างครบถ้วน ปัจจุบัน Health Link ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนกว่า 8,000 หน่วยบริการสุขภาพ ตั้งเป้าจะขยายครบ 10,000 แห่งภายในปีนี้ ครอบคลุมโรงพยาบาลภายใต้สังกัด 5 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนโรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนผ่านภายใต้มาตรฐานสากล เพื่อให้ระบบ HIS กว่า 60 ระบบในประเทศสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างไร้รอยต่อ นี่ไม่ใช่แค่การสร้างระบบดิจิทัล แต่เป็นการสร้างความมั่นคงทางสุขภาพดิจิทัล (Digital Health Sovereignty) ของประเทศ เราต้องการให้ข้อมูลสุขภาพสำคัญของคนไทย มีมาตรฐานกลางเดียวกัน และพร้อมต่อยอดสู่การใช้ Big Data และ AI เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพของประชาชนในอนาคต นพ.ธนกฤต กล่าวปิดท้ายว่า แพลตฟอร์ม Health Link ยังช่วยอำนวยความสะดวกรองรับให้กับโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ดำเนินการได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสมัครการใช้งานระบบ Health Link ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เลือก “กระเป๋าสุขภาพ” ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตนเองได้ทันที ลดความซ้ำซ้อน และเพิ่มความปลอดภัย สำหรับงานสัมมนา Healthcare Technology Summit (ครั้งที่ 12) จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีนำเสนอแนวทางและนวัตกรรมในการขับเคลื่อน Digital Health เพื่อการพัฒนาและยกระดับสาธารณสุขประเทศไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างมีคุณภาพทั่วถึง ทุกที่ และเท่าเทียม
25 September 2025

บทความ

BDI เดินหน้า “Health Link” เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ เพื่อยกระดับการดูแลผู้ป่วย ภายในงาน Medical Fair Thailand 2025 
10 กันยายน 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย นายปัณพิกรณ์ รัตนวิโรจน์กุล Product Manager โครงการ Health Link เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของแพลตฟอร์ม Health Link ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพแห่งชาติ (Health Information Exchange: HIE) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการกระจัดกระจายของข้อมูลผู้ป่วย และยกระดับคุณภาพการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ภายในงาน Medical Fair Thailand 2025 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา  นายปัณพิกรณ์ กล่าวว่า Health Link คือ จิ๊กซอว์สำคัญในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของคนไทยจากหลายหน่วยบริการเข้าด้วยกัน ทำให้แพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลการรักษาที่จำเป็นได้อย่างทันท่วงที ประชาชนจะได้รับการรักษาที่ต่อเนื่องและมีคุณภาพมากขึ้น เพิ่มความปลอดภัย ลดความซ้ำซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบสาธารณสุขไทย  โครงการ Health Link เริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 2562 โดยศึกษาต้นแบบจากต่างประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และเอสโตเนีย ก่อนนำร่องที่โรงพยาบาลสมุทรปราการและราชวิถี ปัจจุบันมีหน่วยบริการกว่า 12000 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมเครือข่าย เชื่อมโยงด้วยมาตรฐานสากล HL7 FHIR พร้อมมาตรการคุ้มครองข้อมูลตาม PDPA อย่างเข้มงวด  ปัจจุบันบริการหลักที่เปิดให้ใช้งานแล้ว ได้แก่  Health Link เตรียมขยายเครือข่ายครอบคลุมกว่า 20,000 หน่วยบริการทั่วประเทศ รองรับข้อมูลสุขภาพรูปแบบใหม่ อาทิ ภาพถ่ายทางการแพทย์ (PACS) บริการส่งเสริมป้องกันโรค และระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลที่มีคุณภาพ เท่าเทียม และต่อเนื่อง โดยการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างระบบสาธารณสุขไทยที่ยั่งยืน และมุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดคือสุขภาพที่ดีของประชาชนทุกคน 
10 September 2025

บทความ

BDI เดินหน้า Health Link แพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระดับประเทศ เสริมศักยภาพบริการสาธารณสุขไทย 
5 กันยายน 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย นพ.ธนกฤต จินตวร First Executive Vice President ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “Health Link: Nationwide Health Data Linking Platform” ภายในงาน Health & Innovation Asia 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3–5 กันยายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ  นพ.ธนกฤตได้กล่าวถึงความสำคัญของ Health Link แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ (Health Information Exchange – HIE) ที่ BDI พัฒนาขึ้นเพื่อเชื่อมโยงประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลและหน่วยบริการสุขภาพทั่วประเทศ ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงประวัติการรักษาของตนเองได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ผ่านแอปพลิเคชันภาครัฐเป๋าตัง  Health Link ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับระบบบริการสุขภาพของไทยในภาพรวม ทั้งการเพิ่มคุณภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วยด้วยข้อมูลที่ครบถ้วน การลดค่าใช้จ่ายและความซ้ำซ้อนจากการตรวจรักษา การสนับสนุนกระบวนการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ผ่านการใช้ Big Data และ AI เพื่อยกระดับความถูกต้องและป้องกันการทุจริต รวมถึงการต่อยอดไปสู่การวางนโยบายสาธารณสุข โดยนำข้อมูลเชิงลึกมาใช้วิเคราะห์และวางแผนเชิงระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน Health Link ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร และเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน ส่งผลให้ระบบครอบคลุมแล้วกว่า 8,600 หน่วยบริการสุขภาพ และตั้งเป้าจะขยายครบ 10,000 แห่งภายในปีนี้  การบรรยายครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของ BDI ในฐานะองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญด้านข้อมูลและ AI ของประเทศ ที่มุ่งผลักดันประเทศไทยสู่ Data-Driven Nation โดยใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเป็นพลังขับเคลื่อนคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน  งาน Health & Innovation Asia 2025 จัดโดย บริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค จำกัด เพื่อเป็นเวทีที่นำเสนอนวัตกรรม อุปกรณ์ และเทคโนโลยีด้านสุขภาพและการแพทย์ครบวงจร เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ หน่วยงาน และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมสุขภาพทั้งในและต่างประเทศ ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ชมการสาธิตเทคโนโลยี และหารือแนวทางพัฒนาการดูแลสุขภาพด้วยดิจิทัลอย่างรอบด้าน 
5 September 2025

บทความ

Health Link ลุยออกบูทสร้างการรับรู้ ในงาน Thailand HealthCare 2025 ขานรับนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่”
26 – 29 มิถุนายน 2568, กรุงเทพฯ – โครงการ Health Link ภายใต้สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เข้าร่วมออกบูทในงาน Thailand HealthCare 2025 ระหว่างวันที่ 26 – 29 มิถุนายน 2568 ณ สามย่านมิตรทาวน์ เพื่อนำเสนอแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ ที่มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพการรักษา ลดความซ้ำซ้อนในการรับบริการ และส่งเสริมระบบสุขภาพที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน  ทั้งนี้ในโอกาสพิธีเปิดงานเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด และได้เยี่ยมชมบูทของหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงบูทของ BDI โดยมี นพ.ธนฤต จินตวร ผู้บริหารกิจการพิเศษ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ และ นางสาวน้ำฝน ประโพธิ์ศรี  ผู้อำนวยการโครงการ Health Link ให้การต้อนรับ พร้อมนำเสนอแนวทางการดำเนินงานของโครงการ การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ สะท้อนถึงภารกิจของ BDI ในการร่วมขับเคลื่อนระบบสุขภาพไทยด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัล ตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการสร้างระบบบริการสุขภาพที่เชื่อมโยง ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพ สอดรับนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” ด้วยเพียงบัตรประชาชนใบเดียว
26 June 2025

บทความ

BDI ลงพื้นที่ทดสอบต้นแบบ ระบบ Refer ร่วมกับ รพ.ราชพิพัฒน์ และ รพ.สิรินธร เตรียมพร้อมเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพในกรุงเทพมหานคร
11 – 12 มิถุนายน 2568, กรุงเทพมหานคร – โครงการ Health Link สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ BDI โดย นายชยนณัฏฐ ทะนะมูล ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการ พร้อมด้วย นายปัณพิกรณ์ รัตนวิโรจน์กุล Business Analyst & Back-end Developer ผู้แทนโครงการ Health Link  พร้อมด้วยทีมบริษัท ดูดี อินดีด คอร์ปอเรชั่น จำกัด ลงพื้นที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และโรงพยาบาลสิรินธร กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการทดสอบการใช้งานระบบ Refer (Prototype) กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข และคลินิกชุมชนอบอุ่นในพื้นที่ การทดสอบระบบในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญในการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง ทั้งในด้านการเชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วย การส่งต่อข้อมูลระหว่างหน่วยบริการ และประสบการณ์ใช้งานระบบในสถานการณ์จริง เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะมาประกอบการพัฒนาและปรับปรุงระบบก่อนนำไปใช้งานจริงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร BDI ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพอย่างมีมาตรฐาน โดยยึดผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง และสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยบริการในพื้นที่ เพื่อให้ระบบสามารถรองรับการดูแลผู้ป่วยได้อย่างไร้รอยต่อ และตอบโจทย์การใช้งานได้จริง โครงการ Health Link เป็นหนึ่งในภารกิจหลักของ BDI ในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างหน่วยบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ ที่เน้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยบริการต่าง ๆ อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และอยู่บนพื้นฐานของความยินยอมจากประชาชน เพื่อยกระดับคุณภาพการรักษาพยาบาลและการกำหนดนโยบายด้านสุขภาพของประเทศ
12 June 2025

บทความ

Health Link เดินหน้าขยายความร่วมมือ เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพในพื้นที่เชียงใหม่
25 เมษายน 2568, เชียงใหม่ – นพ.ธนกฤต จินตวร ผู้บริหารกิจการพิเศษ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI พร้อมด้วย นายชยนณัฏฐ ทะนะมูล ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการ Health Link ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหารือแนวทางการขยายความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ ระหว่างหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 1 เชียงใหม่ โดยได้รับเกียรติจาก นางสาววลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการเขต สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 1 (เชียงใหม่) การหารือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยบริการต่าง ๆ อำนวยความสะดวกในการให้บริการทางการแพทย์ และยกระดับคุณภาพการรักษาพยาบาลด้วยข้อมูลที่แม่นยำและเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย ตามแนวทางการพัฒนาระบบบริการสุขภาพดิจิทัล เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงประวัติการรักษาพยาบาลของตนเองจากหน่วยบริการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ลดความซ้ำซ้อนของการตรวจรักษา และเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยและการดูแลสุขภาพอย่างมีประสิทธิผลภายใต้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ในวันเดียวกัน ผู้บริหารและผู้แทนโครงการ Health Link ยังได้ลงพื้นที่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ ในสังกัดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าหารือกับ รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนา เพิ่มการใช้และขยายผลการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ ระหว่างคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และระบบ Health Link เพื่อยกระดับการให้บริการสาธารณสุขในระดับภูมิภาค โครงการ Health Link ยังคงมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างระบบข้อมูลที่เชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อและขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็นประเทศที่มีระบบบริการสุขภาพอัจฉริยะอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสมัคร Health Link ฟรีผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือ “ThaID” ศึกษารายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่: https://healthlink.go.th
25 April 2025

บทความ

Health Link รวมพลังคนรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนสาธารณสุขไทยสู่ยุคดิจิทัล
เบื้องหลัง Health Link กับทีมผู้พัฒนารุ่นใหม่ พลิกโฉมวงการสาธารณสุขประเทศสู่ระดับสากล การส่งต่อข้อมูลการรักษาระหว่างรพ.จะไม่ยุ่งยากอีกต่อไป
29 November 2021

บทความ

Searchable Encryption กลไกการปกป้องข้อมูลบน Cloud ที่คุณไว้วางใจได้
ในสมัยปัจจุบัน Web application ต่าง ๆ ที่เราสามารถเข้าใช้งานได้ผ่าน Internet แม้ว่าจะเราอาจจะเข้าผ่านมือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดก็ตาม Web application นั้นมักจะดึงข้อมูลจากเครื่อง Server ที่อยู่บน Cloud ซึ่งทำให้เราสามารถเข้าใช้งาน Web application ได้จากทุกที่และทุกเวลา โดยบริการ Cloud เป็นหนึ่งบริการที่ผู้สร้าง Web application สามารถเลือกใช้ได้จากบริษัทชั้นนำ เช่น Google Amazon Microsoft และ National Telecom (NT) โดย Cloud เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับการให้บริการ Web application โครงการ Health Link มีการเก็บรวบรวมข้อมูลสุขภาพของผู้ยินยอมเข้าร่วมโครงการในฐานข้อมูลบน Cloud ของ NT ซึ่งมี SLA ขั้นต่ำในการให้บริการตลอดเวลาสูงถึง 99.8% และมีการรับรองมาตรฐานการจัดการความปลอดภัยระดับสากล ISO27001 รวมถึงมีมาตรการสำหรับการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม การใช้บริการ Cloud มีความเสี่ยง เนื่องจากเครื่อง Server ไม่ได้อยู่ภายใต้ความควบคุมของผู้สร้าง Web application โดยตรง ดังนั้น ผู้สร้าง Web application จึงต้องตระหนักเรื่องความปลอดภัยและความลับของข้อมูล โดยผู้สร้าง Web application สามารถยกระดับความปลอดภัยและปกป้องความลับของข้อมูลที่จะจัดเก็บรวบรวมบน Cloud ได้ด้วยการเข้ารหัสข้อมูล ซึ่งจะทำให้ใครก็ตามที่อาจสามารถเข้าถึงเครื่อง Server ไม่สามารถอ่านและนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้ต่อได้ การเข้ารหัสข้อมูลเป็นวิธีปกป้องความลับของข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง แต่ในขณะเดียวกัน การเข้ารหัสข้อมูลจะเพิ่มความท้าทายในการพัฒนา Web application อย่าง Health Link ด้วย โดยปกติ การเข้ารหัสข้อมูลจะทำให้เราไม่สามารถสืบค้นข้อมูลได้เพราะข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสจะไม่มีคุณสมบัติใด ๆ ของข้อมูลเดิมเหลืออยู่ หากเรานำกลไกการเข้ารหัสทั่วไปมาใช้ก่อนนำส่งข้อมูลไปบันทึกลงฐานข้อมูลบน Cloud ผู้ใช้จะต้องดึงข้อมูลทั้งหมดลงจาก Cloud มาที่เครื่องผู้ใช้และทำการถอดรหัสข้อมูลทั้งหมดเพื่อที่จะสามารถสืบค้นข้อมูลได้ ซึ่งวิธีนี้ ใช้ทรัพยากรโดยใช่เหตุ โดยเฉพาะสำหรับข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยทั้งเครื่องผู้ใช้ เครื่อง Server และเครือข่าย (Network) ไม่สามารถรองรับการใช้งานในรูปแบบนี้ได้ รวมถึงผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ไม่มีสิทธิในการเข้าถึงได้ด้วย อีกทางเลือกหนึ่ง เราสามารถถอดรหัสข้อมูลที่เครื่อง Server ก่อนบันทึกและ/หรือสืบค้น แต่วิธีดังกล่าวจะทำให้ผู้ที่สามารถเข้าถึงเครื่อง Server เรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลได้ ดังนั้น การเข้ารหัสข้อมูลใน Web application อย่าง Health Link จึงต้องอาศัยกลไกการเข้ารหัส Searchable Encryption เพื่อรองรับความปลอดภัยและปกป้องความลับของข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ยังสามารถสืบค้นข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ Searchable Encryption Searchable Encryption (SE) คือกลไกการเข้ารหัสข้อมูลที่เราสามารถใช้คำศัพท์เฉพาะ (Key word) ในการสืบค้นข้อมูลได้ เช่น ‘วินิจฉัย’ (Diagnosis) และ ‘หัตถการ’ (Procedure) เป็นต้น โดยการนำ SE ไปประยุกต์ใช้ในระบบอย่าง Health Link จะปกป้องความลับของทั้งข้อมูลที่บันทึกในฐานข้อมูลและ Key word ที่ใช้ในการสืบค้นข้อมูล ลักษณะการใช้งานของ SE แสดงในรูปภาพดังต่อไป จากรูปภาพที่ 1 การใช้ SE จะมีผลกระทบต่อผู้ควบคุมข้อมูล (Data Controller) ผู้ประมวลผลข้อมูล (Data Processor) และเครื่อง Server ที่ตั้งอยู่บน Cloud โดยผู้ควบคุมข้อมูลจะเป็นผู้เข้ารหัสข้อมูลด้วย SE ก่อนนำส่งข้อมูลไปที่ Cloud และผู้ประมวลผลข้อมูลเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิในการเข้าถึง สืบค้น และใช้งานข้อมูล โดย Web application จะทำการสร้าง Token เพื่อสืบค้นข้อมูลที่ Cloud จาก Key word ที่ผู้ประมวลผลข้อมูลสืบค้น และทำการถอดรหัสผลการสืบค้นข้อมูลหลังจากที่ได้รับคืนมาจาก Cloud เพื่อให้ผู้ประมวลผลข้อมูลอ่านผลการสืบค้นข้อมูลได้ เพราะฉะนั้น ข้อมูลที่เครื่อง Server บน Cloud ประมวลผลเป็นข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสทั้งหมด SE จึงสามารถปกป้องความลับของข้อมูลและการสืบค้นข้อมูลได้อย่างดี การประยุกต์ใช้ Searchable Encryption ในโครงการ Health Link ในการนำ SE มาประยุกต์ใช้ประกอบ Web application ผู้สร้างจะต้องคัดเลือกกลไกเฉพาะของ SE ที่เหมาะสมสำหรับการทำงานของระบบ โดยทั่วไป กลไกการเข้ารหัสสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ Symmetric Encryption ซึ่งใช้กุญแจเดียวในการเข้าและถอดรหัส และ Asymmetric Encryption ซึ่งใช้คู่กุญแจ (Key pair) ในการเข้าและถอดรหัส โดยใช้ Public key สำหรับเข้ารหัสและ Private key สำหรับถอดรหัส การเข้ารหัสด้วย SE สามารถแบ่งตาม 2 ประเภทข้างต้นได้เช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกัน เราสามารถนำกลไก SAE ที่เรียกว่า proxy re-encryption with keyword search (PRES) มาใช้กับ Health Link ได้ โดยกลไก proxy re-encryption คือการแปลงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสให้สามารถถูกถอดรหัสด้วยกุญแจใหม่ ซึ่งมีประโยชน์ในการจำกัดให้แพทย์ที่กำลังรักษาผู้ป่วยผู้เดียวสามารถค้นหา เรียกดู และถอดรหัสข้อมูลได้ โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉิน เมื่อระบบจำเป็นต้องให้สิทธิแพทย์เข้าถึงข้อมูลเพื่อช่วยชีวิตของผู้ป่วย* (หมายเหตุ: ปัจจุบัน การเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉินขึ้นอยู่กับนโยบายการขอความยินยอมในการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละสถานพยาบาลซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูล) PRES จึงสามารถทำให้ Health Link มีความปลอดภัยและสามารถปกป้องความลับของข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น โครงการ Health Link ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความลับของข้อมูลเป็นอันดับแรก โดย SE เป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับความปลอดภัยของระบบ และการรับประกันความลับของข้อมูลที่จัดเก็บ สืบค้น และเรียกดูจากฐานข้อมูลบน Cloud ในการนำกลไก SE มาประยุกต์ใช้กับ Web application เราควรประเมินความต้องการของระบบ ร่วมกับคุณสมบัติ ความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และข้อจำกัดของการเข้าและถอดรหัส สืบค้น และเรียกดูข้อมูล เพื่อที่เราจะสามารถจัดการความปลอดภัยและความลับของข้อมูลให้ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับระบบของเรา อย่างไรก็ตาม ผู้สร้าง Web application จะต้องตระหนักเรื่องความปลอดภัยของระบบอยู่เสมอ เพราะการปกป้องความปลอดภัยและความลับของข้อมูล...
22 July 2021

บทความ

Digital Transformation ของบริการสุขภาพ
How digital transformation and technology improves the quality of healthcare system
19 May 2021
PDPA Icon

We use cookies to optimize your browsing experience and improve our website’s performance. Learn more at our Privacy Policy and adjust your cookie settings at Settings

Privacy Preferences

You can choose your cookie settings by turning on/off each type of cookie as needed, except for necessary cookies.

Accept all
Manage Consent Preferences
  • Strictly Necessary Cookies
    Always Active

    This type of cookie is essential for providing services on the website of the Personal Data Protection Committee Office, allowing you to access various parts of the site. It also helps remember information you have previously provided through the website. Disabling this type of cookie will result in your inability to use key services of the Personal Data Protection Committee Office that require cookies to function.
    Cookies Details

  • Performance Cookies

    This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

  • Functional Cookies

    This type of cookie enables the Big Data Institute (Public Organization)’s website to remember the choices you have made and deliver enhanced features and content tailored to your usage. For example, it can remember your username or changes you have made to font sizes or other customizable settings on the page. Disabling these cookies may result in the website not functioning properly.

  • Targeting Cookies

    "This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

Save settings