Technology

Technology

ข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง

All Technology

PostType Filter En

บทความ

วิธีการการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเปลี่ยนแปลงธุรกิจของคุณ
หากธุรกิจของคุณกำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาแนวทางในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจมาสู่ดิจิทัล Business Model Canvas คือเครื่องมือที่สามารถช่วยเปลี่ยนให้องค์กรเข้าสู่การทำงานแบบดิจิทัลอย่างแท้จริง
13 October 2022

บทความ

เทคนิคการสังเกตรูปภาพหรือวิดีโอใบหน้าที่ถูกดัดแปลงด้วยเทคโนโลยี DeepFake
เทคโนโลยี “DeepFake” ได้ถูกนิยามในปี พ.ศ. 2560 เมื่อนักวิจัยได้เริ่มนำโครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึก (Deep Neural Networks) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางปัญญาประดิษฐ์สมัยใหม่มาปรับใช้กับการตกแต่งรูปภาพหรือวีดิโอใบหน้าเพื่อเปลี่ยนแปลงการแสดงสีหน้า ท่าทาง หรือแม้แต่คำพูด ในปัจจุบันเทคโนโลยี DeepFake ได้ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็วจนทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและสามารถตัดต่อรูปภาพและวีดีโอใบหน้าได้โดยง่าย โดยที่ DeepFake สมัยใหม่นั้นต้องการเพียงแค่รูปภาพใบหน้าตรงเพียง 1 ภาพในการดัดแปลงรูปภาพและตัดต่อวีดิโอ และแม้แต่แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือก็สามารถทำได้ โดยวิดีโอที่ถูกดัดแปลงนั้นยังมีความสมจริงจนทำให้การตรวจสอบความถูกต้องของวิดีโอนั้นเป็นไปได้ยาก ซึ่งความสมจริงของวีดิโอเหล่านี้ทำให้เกิดความกังวลต่อความน่าเชื่อถือของสื่อดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีกลุ่มมิจฉาชีพได้พยายามหลอกหลวงประชาชนด้วยรูปแบบต่าง ๆ เราอาจได้เห็นข่าวที่มิจฉาชีพเริ่มนำเอาเทคโนโลยี DeepFake มาปลอมเป็นตำรวจเพื่อหลอกให้เหยื่อโอนเงินมากขึ้น ดังนั้นการตระหนักและรู้เท่าทันถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยี DeepFake จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในยุคปัจจุบัน ทีมวิจัยจาก mit meadia lab ได้ตั้งข้อเสนอแนะสำหรับเทคนิคในการสังเกตรูปภาพหรือวิดีโอที่ถูกดัดแปลงด้วยเทคโนโลยี DeepFake ไว้ดังนี้ นอกจากข้อสังเกตเหล่านี้แล้ว นักวิจัยทั่วโลกเองก็ยังได้ให้ความสนใจกับการพัฒนาเทคโนโลยีทางปัญญาประดิษฐ์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลรูปภาพและวิดีโอมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถใช้แอปพลิเคชันของ deepware ซึ่งเป็นเว็บแอปพลิเคชันแบบฟรีสำหรับการตรวจสอบวิดีโอ DeepFake เบื้องต้นได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามความสามารถของการตรวจสอบข้อมูลวิดีโอ DeepFake แบบอัตโนมัติด้วยแบบจำลองทางปัญญาประดิษฐ์เองก็ยังมีข้อจำกัด จากผลการทดสอบของแบบจำลองกว่า 35,000 ชิ้นปรากฎว่าแบบจำลองที่ดีที่สุดสามารถทำนายผลความถูกต้องของข้อมูลวิดีโอ DeepFake ได้เพียงแค่ 65 % บนชุดข้อมูลขนาดใหญ่ของ Deepfake Detection Challenge (DFDC) ในปี 2562 เนื้อหาโดย อาจารย์ ดร.กฤตภาส สงศรีอินทร์ตรวจทานและปรับปรุงโดย ดวงใจ จิตคงชื่น
3 July 2022

บทความ

5G และ AI: เทคโนโลยีสำคัญ ที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตไปตลอดกาล
เมื่อระบบ 5G เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทำให้เกิดการรับส่งข้อมูลที่มีความซับซ้อนและมีปริมาณมาก โดยเฉพาะข้อมูลที่มาจากแหล่งข้อมูลใหม่ๆ เช่น ตัวส่งข้อมูลปลายสาย (End Point) หรือที่เรียกว่า IoT (Internet of Things) ที่เราคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี การบริหารจัดการ BIG DATA , AI (Artificial Intelligence), ML (Machine Learning) จึงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้การรับส่งสัญญาณผ่าน Platform ทั้งเครือข่ายอันเป็น Infrastructure สำคัญนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดเทคโนโลยี 5G และ AI ซึ่งเป็น 2 เทคโนโลยีสำคัญที่กำลัง “มาแรง” ในประเทศไทย และเป็นที่พูดถึงมากที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยความสำคัญดังกล่าว บทความนี้จะขอพูดถึง AI ผนวกกับนวัตกรรมดิจิทัล 5G ว่าทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้จะสามารถทำงานร่วมกัน และก่อให้เกิด Disruption ที่กระทบอย่างรุนแรงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ  รวมไปถึงส่งผลต่องานวิศวกรรม ธุรกิจ และการบริหารงานทุกชนิดขึ้นได้อย่างไร การผนวกรวมของสองเทคโนโลยีดังกล่าวนับเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจและติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถก้าวทันโลกเทคโนโลยีและสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อ AI เปี่ยมไปด้วยความชาญฉลาดคล้ายความฉลาดของมนุษย์ มีความสามารถคิด วิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจได้จากการประมวลผลของฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ด้วยสาเหตุดังกล่าวหลายคนจึงอาจเกิดความระแวงว่าเทคโนโลยี AI นี้จะมาแย่งงานมนุษย์ และอนาคตข้างหน้า AI จะสามารถยึดครองโลก แล้วมนุษย์จะสูญพันธุ์ ความกลัวดังกล่าวนี้เกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่คนส่วนมากยังไม่เข้าใจมัน ตอนนี้อาจเกิดข้อสงสัยแล้วว่าเทคโนโลยี 5G จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ  AI  ได้อย่างไร แต่ก่อนจะไปเล่าขยายความถึง 5G อันเป็น Generation ของเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายที่เรากำลังใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เราลองมาไล่เรียงเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายในแต่ละยุคกันก่อน โดยเริ่มจากในยุคแรก ได้แก่ ยุค 1G ในยุคนั้นเราพูดคุยกันด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือระบบอนาล็อก (Analog) ก่อนจะเริ่มพัฒนาการสื่อสารให้ครอบคลุมถึงการส่งข้อความ ไม่ว่าจะเป็น sms หรือ mms อันเป็นจุดเด่นสำคัญของยุค 2G จนกระทั่งพัฒนาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญคือการเข้าสู่ยุค 3G ที่เราสามารถเชื่อมต่อและเล่นอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือได้ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น (อยู่ระหว่าง 220 Kbps ถึง 42.2 Mbps) จนเข้ามาถึงยุค 4G ที่เราสามารถเห็นภาพ รับฟังเสียง หรือดูหนังออนไลน์ได้ เนื่องจากมีความเร็วหลากหลายระดับให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น 4G LTE (100 Mbps), LTE Advanced (1 Gbps) ภายใต้การทำงานบนเครือข่าย 5G ที่มาพร้อมกับความกว้างของแบนด์วิดธ์ (Bandwidth) ที่เพิ่มขึ้นอันขยายขีดจำกัดให้สามารถรองรับการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ได้เพิ่มมากขึ้นสำหรับในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งความหน่วงเวลาที่ลดลงยังช่วยให้การถ่ายทอดสตรีมมิ่งวิดีโอเป็นไปอย่างลื่นไหล ไม่สะดุด ทั้งยังสามารถดาวน์โหลดข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ภายในพริบตาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้จะเห็นได้ว่าทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคธุรกิจ หรือภาคประชาชนต่างก็ต้องการนำเอาเทคโนโลยีที่มีความเร็วสูงในระดับ 5G มาใช้เป็นเป็นพื้นฐานหลักสำคัญในการพัฒนาการติดต่อสื่อสารระหว่างกันแทบทั้งสิ้น จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นแล้วว่าการพัฒนาขึ้นของทั้ง 2 เทคโนโลยี ได้แก่ 5G และ AI ก่อให้เกิดทั้งความท้าทายใหม่  (New challenges) และ โอกาสใหม่ (New opportunities) ซึ่งจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีการใช้ทั้ง 2 เทคโนโลยีมาเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน 5G Develop AI หัวข้อนี้เราจะมาเริ่มไขข้อสงสัยที่ว่า 5G จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ  AI  เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ได้อย่างไร จากที่เกริ่นมาข้างต้นจะเห็นว่าในอนาคตอันใกล้เทคโนโลยี 5G จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการแลกเปลี่ยนข้อมูลให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว การเชื่อมโยงข้อมูลมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพ เช่นการเชื่อมโยงข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นจากเครื่องมือ IoT ที่เรามักคุ้นหน้าคุ้นตากันในรูปแบบของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รอบตัวของเรานั่นเอง จากการพัฒนาดังกล่าวช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ ทั้งในส่วนข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาล หรือที่มีความซับซ้อนเชิงรูปแบบ แน่นอนว่าการที่อุปกรณ์ต่าง ๆ ร่วมกับสมาร์ทโฟนและเซ็นเซอร์ที่คอยตรวจจับสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว จะสามารถทำงานเชื่อมต่อกันได้อย่างอัจฉริยะจำเป็นต้องอาศัยการสื่อสารระหว่างกันผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดย AI จะเข้ามาช่วยเรียนรู้ ค้นหา และวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ เทคโนโลยี 5G จะช่วยรับมือกับการไหลของข้อมูลปริมาณมากที่มาจากอุปกรณ์บ้าน ๆ ธรรมดา ๆ ที่เชื่อมต่อเข้าสู่ระบบออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้อย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดแนวคิดของ Edge Analytics มีความหมายอย่างกว้าง ๆ ก็คือการสร้างโมเดลวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) รูปแบบใหม่ ผ่านการกระจายข้อมูลไปประมวลผลบนเครื่องมือปลายทางโดยไม่มีจุดศูนย์กลางของระบบ  ยกตัวอย่างเช่น การใช้หุ่นยนต์ที่มี RFID (Radio Frequency Identification) ในการตรวจนับสินค้าในคลังผ่านเทคโนโลยี IoT โดย 5G จะช่วยเชื่อมต่อข้อมูลจากหุ่นยนต์หลายตัว เข้าสู่ระบบออนไลน์ให้เกิดขึ้นได้อย่างเสถียรและสุดท้ายจะนำ AI มาใช้ในส่วนของการสร้างและจดจำแผนที่ของคลังสินค้า เพื่อไม่ให้หุ่นยนต์เดินไปนับสินค้าในตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งที่มีหุ่นยนต์ตัวอื่นตรวจเช็คไปก่อนหน้าแล้ว AI Develop 5G และในทางกลับกันลองนึกภาพว่าเราจะสามารถใช้ ระบบ AI กับ 5G เพื่อพัฒนาเครือข่ายโทรคมนาคม ให้เป็น Communication ที่สมบูรณ์ได้อย่างไร เมื่อ AI เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและกุญแจสำคัญในการใช้ปรับปรุงระบบไร้สายโดยการมุ่งเน้นไปที่ความท้าทายด้านระบบไร้สายที่สำคัญ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ให้กับทั้งระบบเครือข่ายเทคโนโลยี 5G และ อุปกรณ์ต่าง ๆ โดย AI จะใช้ Machine learning ในการเรียนรู้เพื่อลดความซับซ้อนในการจัดการเครือข่าย 5G โดยการช่วยระบุ node ที่มีความจำเป็นน้อยและอาจตัดออกจากเครือข่ายได้และตรวจสอบการใช้งานให้มีประสิทธิภาพและมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด ช่วยระบุปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งวินิจฉัย และแก้ไขปัญหาของเครือข่ายได้โดยอัตโนมัติ มากไปกว่านั้นยังสามารถคาดเดาปัญหาได้ก่อนที่จะเกิดขึ้นจริงจากรูปแบบการใช้งานย้อนหลัง นอกจากนี้ AI ยังช่วย บริษัทโทรคมนาคมในการออกแบบบริการ 5G ใหม่ ๆ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อให้แน่ใจว่ามีทรัพยากรเครือข่ายที่เพียงพอและระบุตำแหน่งที่ต้องการได้มากยิ่งขึ้น มากไปกว่านั้น AI ในอุปกรณ์ (AI on Device) จะช่วยปรับปรุงระบบในอุปกรณ์นั้น ๆ แบบ end-to-end โดย AI จะเรียนรู้อัลกอริธึมและรูปแบบของสัญญาณคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) ที่ซับซ้อนของอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบสัญญาณ รวมไปถึง เพิ่มวงจรชีวิตของแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนาน และที่สำคัญยังเพิ่มประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้งานโดยเทคโนโลยี AI So, what’s next? เมื่อทั้งเทคโนโลยี 5g และ AI สามารถส่งเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดีก่อให้เกิดรูปแบบการบริการ หรือ นวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อลดข้อผิดพลาด และอำนวยความสะดวก ให้มนุษย์อย่างเรามากยิ่งขึ้นส่งผลให้รูปแบบการใช้ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งเป็นเหตุให้ในอนาคตปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จคือรูปแบบของธุรกิจที่ตอบโจทย์กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็น...
11 January 2021

บทความ

10 อันดับเทรนด์เทคโนโลยีในปี 2563
เรากำลังอยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านการคำนวณบนคลาวด์, ปัญญาประดิษฐ์, บล็อกเชน, และข้อมูลอัจฉริยะ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยเร่งสำคัญในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล
27 March 2020
PDPA Icon

We use cookies to optimize your browsing experience and improve our website’s performance. Learn more at our Privacy Policy and adjust your cookie settings at Settings

Privacy Preferences

You can choose your cookie settings by turning on/off each type of cookie as needed, except for necessary cookies.

Accept all
Manage Consent Preferences
  • Strictly Necessary Cookies
    Always Active

    This type of cookie is essential for providing services on the website of the Personal Data Protection Committee Office, allowing you to access various parts of the site. It also helps remember information you have previously provided through the website. Disabling this type of cookie will result in your inability to use key services of the Personal Data Protection Committee Office that require cookies to function.
    Cookies Details

  • Performance Cookies

    This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

  • Functional Cookies

    This type of cookie enables the Big Data Institute (Public Organization)’s website to remember the choices you have made and deliver enhanced features and content tailored to your usage. For example, it can remember your username or changes you have made to font sizes or other customizable settings on the page. Disabling these cookies may result in the website not functioning properly.

  • Targeting Cookies

    "This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

Save settings
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.