คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) นี้ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า สขญ.) หน่วยงานภายในกำกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้มาติดต่อ ผู้ใช้บริการ คู่ค้า รวมถึง ผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “ท่าน”) ได้ทราบและเข้าใจรูปแบบการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ สขญ. ดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่านเพื่อการดำเนินการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้
ทั้งนี้ สขญ. ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
๑. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
สขญ. ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
๑. เพื่อความจำเป็นในการจัดทำทะเบียนบัญชีผู้ใช้งาน สำหรับการจัดการบัญชีผู้ใช้บริการ เช่น การเพิ่ม การลบ และการขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล สำหรับผู้ดูแลระบบ ผู้มีสิทธิบริหารจัดการเว็บไซต์ ผู้มีสิทธิจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ และผู้ใช้งานทั่วไป
๒. เพื่อความจำเป็นในการยืนยันตัวบุคคล ผู้ดูแลระบบ ผู้มีสิทธิบริหารจัดการเว็บไซต์ ผู้มีสิทธิจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ สำหรับการบริหารจัดการเว็บไซต์ และผู้ใช้งานทั่วไป สำหรับการใช้งานบริการและคุณสมบัติต่าง ๆ บนเว็บไซต์
๓. เพื่อการติดต่อสื่อสาร เช่น การติดต่อประสานงาน การสอบถาม การแจ้งข่าวสาร การรับสมัครงาน และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของเว็บไซต์ เป็นต้น
๔. เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและบริการของเว็บไซต์ เช่น การวิเคราะห์ทางสถิติของการเยี่ยมชม สำหรับการติดตามและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน การวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานทั่วไปที่มีต่อเนื้อหาและบริการของเว็บไซต์ การเรียนรู้และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานเพื่อสร้างประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์ เป็นต้น
๕. เพื่อจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การบริหารจัดการเว็บไซต์ การดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบสื่อสาร การตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนด นโยบาย และกระบวนการภายในของ สขญ.
๖. เพื่อการฝึกอบรม สัมมนา และประชุม ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมการประชุมและกิจกรรมที่จัดโดย สขญ. ด้วย
๗. เพื่อการรับสมัครผู้ปฏิบัติงาน และการรับนักศึกษาฝึกงาน
๘. เพื่อการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุ งานนิติกรรมหรือสัญญา การเงิน และการบัญชี ของ สขญ.
๗. เพื่อการรักษาความปลอดภัย โดยอาจมีการตรวจสอบข้อมูลที่เก็บรวบรวม รวมถึงข้อมูลในกล้อง CCTV เพื่อป้องกันการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
๑๐. เพื่อการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.๒๕๖๒ การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนี้ อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ระเบียบ ประกาศ หรือข้อกำหนดอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะออกใช้บังคับต่อไปในภายหน้า รวมถึงภายใต้บังคับแห่งบทกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องด้วย
๑๑. ปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่กฎหมายของ สขญ. หรือกฎหมายอื่นกำหนดให้ สขญ. ต้องปฏิบัติ
๒. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สขญ. เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ ๑ สขญ. เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังรายการต่อไปนี้
๒.๑ การให้บริการภายนอก สัมมนา และจัดการประชุม
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
๑.ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ สขญ.มีการเก็บรวบรวม | สขญ. อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด ได้แก่
|
๒. ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ใดบ้างที่ สขญ. มีการเก็บรวบรวม | -ไม่มี- |
๓. เหตุผลที่ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
|
๔. เหตุผลที่ สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ | สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจาก
|
๕. สขญ. มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง | ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายใน สขญ. เฉพาะผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน หรือผู้รับจ้างที่เป็นบุคคลภายนอก (Outsource) ที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลการดำเนินงานดังกล่าวให้กับ สขญ. (กรณีที่มีการว่าจ้าง) รวมถึง ผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) ที่ทำหน้าที่ตรวจประเมินตามระบบมาตรฐานการดำเนินกิจการนี้เท่านั้น |
๖.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลนานเท่าใด | ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บตลอดระยะเวลาการดำเนินกิจกรรม และจัดเก็บเป็นระยะเวลาอีกไม่เกิน ๕ ปี นับแต่วันที่สิ้นสุดการดำเนินกิจกรรม หรือหลังจากวันที่ท่านไม่มีสิทธิและหน้าที่ใดๆ กับ สขญ. |
๗.กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ | -ไม่มี- |
๒.๒ การฝึกอบรม
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
๑.ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ สขญ.มีการเก็บรวบรวม | สขญ.อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด ได้แก่
|
๒. ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ใดบ้างที่ สขญ. มีการเก็บรวบรวม | -ไม่มี-
(ในกรณีที่ท่านจำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนเป็นหลักฐานประกอบการขอรับบริการ และในสำเนาบัตรประชาชนมีข้อมูล “ศาสนา” ทาง สขญ.จะไม่จัดเก็บข้อมูลนี้ โดยจะดำเนินการลบข้อมูลออก) |
๓. เหตุผลที่ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
|
๔. เหตุผลที่ สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ | สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจาก
|
๕. สขญ. มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง | ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายใน สขญ. เฉพาะผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน หรือผู้รับจ้างที่เป็นบุคคลภายนอก (Outsource) ที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลการดำเนินงานดังกล่าวให้กับ สขญ. (กรณีที่มีการว่าจ้าง) รวมถึง ผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) ที่ทำหน้าที่ตรวจประเมินตามระบบมาตรฐานการดำเนินกิจการนี้เท่านั้น |
๖.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลนานเท่าใด | ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บตลอดระยะเวลาการดำเนินกิจกรรม และจัดเก็บเป็นระยะเวลาอีกไม่เกิน ๕ ปี นับแต่วันที่สิ้นสุดการดำเนินกิจกรรม หรือหลังจากท่านไม่มีสิทธิและหน้าที่ใดๆ กับ สขญ. เว้นแต่ ในกรณีการจัดเก็บเพื่อวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำฐานข้อมูลผู้เข้ารับหรือผ่านการฝึกอบรม สขญ. จะจัดเก็บข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว |
๗. กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ | -ไม่มี- |
๒.๓ การรับสมัครผู้ปฏิบัติงาน และการรับนักศึกษาฝึกงาน
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
๑.ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ สขญ.มีการเก็บรวบรวม | สขญ. อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด ได้แก่
|
๒. ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ใดบ้างที่ สขญ. มีการเก็บรวบรวม | -ไม่มี-
(ในกรณีที่ท่านจำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนเป็นหลักฐานประกอบ และในสำเนาบัตรประชาชนมีข้อมูล “ศาสนา” ทาง สขญ. จะไม่จัดเก็บข้อมูลนี้ โดยจะดำเนินการลบข้อมูลออก) |
๓. เหตุผลที่ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
|
๔. เหตุผลที่ สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ | สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจาก
|
๕. สขญ. มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง | ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายใน สขญ. เฉพาะผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน รวมถึงผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) ที่ทำหน้าที่ตรวจประเมินตามระบบมาตรฐานการดำเนินกิจการนี้เท่านั้น |
๖.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลนานเท่าใด |
|
๗. กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ | -ไม่มี- |
๒.๔ การจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุ งานนิติกรรมหรือสัญญา การเงินและการบัญชี
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
๑.ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ สขญ.มีการเก็บรวบรวม | สขญ. อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด ได้แก่
|
๒. ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ใดบ้างที่ สขญ. มีการเก็บรวบรวม | -ไม่มี-
(ในกรณีที่ท่านจำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนเป็นหลักฐานประกอบ และในสำเนาบัตรประชาชนมีข้อมูล “ศาสนา” ทาง สขญ. จะไม่จัดเก็บข้อมูลนี้ โดยจะดำเนินการลบข้อมูลออก) |
๓. เหตุผลที่ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
|
๔. เหตุผลที่ สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ | สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจาก
|
๕. สขญ. มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง |
|
๖.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลนานเท่าใด | ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุ และงานนิติกรรมสัญญา
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บเป็นระยะเวลา ๑๐ ปี นับแต่สิ้นสุดสัญญา ด้านการเงินและการบัญชี ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บเป็นระยะเวลา ๑๐ ปี นับแต่สิ้นสุดปีงบประมาณที่ดำเนินการรับหรือจ่ายเงิน |
๗. กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ | -ไม่มี- |
๒.๕ การรักษาความปลอดภัย
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
๑.ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ สขญ.มีการเก็บรวบรวม | สขญ. อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด ได้แก่
|
๒. ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ใดบ้างที่ สขญ. มีการเก็บรวบรวม | -ไม่มี- |
๓. เหตุผลที่ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
|
๔. เหตุผลที่ สขญ.ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ | สขญ.ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจาก
|
๕. สขญ. มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง | ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายใน สขญ. เฉพาะผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน รวมถึง ผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) ที่ทำหน้าที่ตรวจประเมินตามระบบมาตรฐานการดำเนินกิจการนี้เท่านั้น |
๖.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลนานเท่าใด | ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บเป็นระยะเวลาอีกไม่เกิน ๑ ปี นับแต่วันที่ท่านติดต่อหรือเข้าพื้นที่ สขญ. เว้นแต่ ภาพเคลื่อนไหวของท่านในขณะที่ท่านอยู่ในพื้นที่ของ สขญ. (CCTV) จะจัดเก็บเป็นระยะเวลาไม่เกิน ๙๐ วัน หรือเท่าที่มีเหตุจำเป็น |
๗. กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ | -ไม่มี- |
๒.๖ การใช้งานเว็บไซต์
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
๑.ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ สขญ.มีการเก็บรวบรวม | สขญ. อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด ได้แก่
|
๒. ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ใดบ้างที่ สขญ. มีการเก็บรวบรวม | -ไม่มี- |
๓. เหตุผลที่ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
|
๔. เหตุผลที่ สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ | สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจาก
|
๕. สขญ. มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง | ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายใน สขญ. เฉพาะผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน หรือผู้รับจ้างที่เป็นบุคคลภายนอก (Outsource) ที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลการดำเนินงานดังกล่าวให้กับ สขญ. (กรณีที่มีการว่าจ้าง) รวมถึง ผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) ที่ทำหน้าที่ตรวจประเมินตามระบบมาตรฐานการดำเนินกิจการนี้เท่านั้น เว้นแต่เป็นข้อร้องเรียนที่มีหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายในเรื่องดังกล่าวโดยตรง กรณีนี้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมี การเปิดเผยและแบ่งปันให้กับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้ามาดูแลและช่วยเหลือท่านตามแต่ละกรณี |
๖.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลนานเท่าใด | ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บตลอดระยะเวลาการดำเนินกิจกรรมเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว |
๗. กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ | -ไม่มี- |
๒.๗ ข้อมูลส่วนบุคคล ประเภทคุกกี้ (Cookies)
สขญ. ใช้เฉพาะคุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies) โดยคุกกี้ประเภทนี้
มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สขญ. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สขญ. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
๒.๘ ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบกระดาษ
ในกรณีที่ สขญ. จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในรูปแบบกระดาษ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีระยะเวลาจัดเก็บตามกฎหมายว่าด้วยงานสารบรรณ และกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ รวมถึงแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง หรือจนกว่าจะมีการแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
๓. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
สขญ. จะไม่เผยแพร่ จำหน่าย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ของท่านที่ สขญ. ได้เก็บรวบรวมไว้ให้แก่บุคคลอื่น (บุคคลภายนอก) เว้นแต่ การดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในประกาศนี้ หรือเมื่อได้รับการร้องขอหรือได้รับความยินยอมจากท่าน หรือเปิดเผยภายใต้บางสถานการณ์ ดังนี้
๑. เปิดเผยแก่หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
๒. เปิดเผยแก่บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ
๓. เปิดเผยแก่บุคคลอื่นภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้ โดยในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน สขญ. จะขอความยินยอมจากท่านก่อนตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
๔. ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้าง หรือบุคคลใดๆ ที่ สขญ. ว่าจ้างหรือมอบหมายเพื่อให้บริการ หรือดำเนินการอย่างใดๆ ที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของสขญ. ซึ่งถือเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้ความรับผิดชอบของ สขญ. ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล โดย สขญ. จะจัดให้มีข้อตกลงหรือสัญญาระหว่างกัน เพื่อควบคุมการดำเนินงานตามหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้รับมอบหมายจาก สขญ. ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
๕. ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น สขญ. จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
๖. สขญ. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อสาธารณะ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.bdi.or.th หรือสื่อสังคมออนไลน์ (social media) ของ สขญ. ในกรณีดังต่อไปนี้
๔. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
๑. สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ สขญ. เก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่ สขญ. มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
๒. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
๓. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
๔. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่ สขญ. มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น สขญ. สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของ สขญ. เป็นต้น)
๕. สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่ สขญ. ในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษา เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายหรือเงื่อนไขการใช้บริการให้ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไป
๖. สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก สขญ. ได้ในกรณีที่ สขญ. ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้ สขญ. ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
๕. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในบางกรณี สขญ. อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของ สขญ. ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม โดย สขญ. ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
๑. เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ สขญ. ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
๒. ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
๓. เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับ สขญ. (ถ้ามี) หรือเป็นการทำตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
๔. เป็นการกระทำตามสัญญาของ สขญ. กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
๕. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
๖. เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
๖. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บและใช้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ หรือจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็น ตามวัตถุประสงค์และตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว สขญ. จะดำเนินการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป
อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาทการใช้สิทธิหรือคดีความหรือมีการตรวจสอบตามกระบวนการกฎหมาย เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กระทรวงการคลัง หรือหน่วยงานอื่นใดที่มีอำนาจตามกฎหมาย อันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สขญ. ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลนั้น ต่อไปจนกว่าข้อพิพาทจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด หรือการตรวจสอบนั้นจะสิ้นสุด
๗. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
สขญ. มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติการรักษาด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของ สขญ.
นอกจากนี้ สขญ. ได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดย สขญ. ได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม
๘. ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
สขญ. ได้กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
โดย สขญ. จะดำเนินการให้ผู้ปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
๙. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ สขญ. อาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ อย่างไรก็ดี สขญ. ขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบ
เพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจ้ะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ สขญ. โดยในการเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้วจะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
๑๐. การติดต่อสอบถาม
ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
สถานที่ติดต่อ : สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน)
ที่อยู่ : เลขที่ ๒๓๔/๔๓๒ ซอยลาดพร้าว ๑๒ แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ๑๐๙๐๐
ช่องทางการติดต่อ :
โทรศัพท์ : ๐ ๒๔๘๐ ๘๘๓๓ ต่อ ๙๕๐๓
อีเมล : dpo@bdi.or.th
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ “นโยบายคุ้กกี้” และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ “ตั้งค่า”
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ยอมรับทั้งหมด
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
รายละเอียดคุกกี้
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ BDI ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ BDI รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ BDI ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ BDI ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ BDI จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ BDI ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ BDI แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน