ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
ของสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน)

     คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) นี้ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า  สขญ.) หน่วยงานภายในกำกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้มาติดต่อ ผู้ใช้บริการ คู่ค้า รวมถึง ผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “ท่าน”) ได้ทราบและเข้าใจรูปแบบการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ สขญ. ดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่านเพื่อการดำเนินการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้

     ทั้งนี้  สขญ. ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

     ๑. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     สขญ. ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

    1. เพื่อความจำเป็นในการจัดทำทะเบียนบัญชีผู้ใช้งาน สำหรับการจัดการบัญชีผู้ใช้บริการ เช่น การเพิ่ม การลบ และการขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล สำหรับผู้ดูแลระบบ ผู้มีสิทธิบริหารจัดการเว็บไซต์ ผู้มีสิทธิจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ และผู้ใช้งานทั่วไป
    2. เพื่อความจำเป็นในการยืนยันตัวบุคคล ผู้ดูแลระบบ ผู้มีสิทธิบริหารจัดการเว็บไซต์ ผู้มีสิทธิจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ สำหรับการบริหารจัดการเว็บไซต์ และผู้ใช้งานทั่วไป สำหรับการใช้งานบริการและคุณสมบัติต่าง ๆ บนเว็บไซต์
    3. เพื่อการติดต่อสื่อสาร เช่น การติดต่อประสานงาน การสอบถาม การแจ้งข่าวสาร การรับสมัครงาน และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของเว็บไซต์ เป็นต้น
    4. เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและบริการของเว็บไซต์ เช่น การวิเคราะห์ทางสถิติของการเยี่ยมชม สำหรับการติดตามและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน การวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานทั่วไปที่มีต่อเนื้อหาและบริการของเว็บไซต์ การเรียนรู้และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานเพื่อสร้างประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์ เป็นต้น
    5. เพื่อจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การบริหารจัดการเว็บไซต์ การดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบสื่อสาร การตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนด นโยบาย และกระบวนการภายในของ สขญ.
    6. เพื่อการฝึกอบรม สัมมนา และประชุม ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมการประชุมและกิจกรรมที่จัดโดย สขญ. ด้วย
    7. เพื่อการรับสมัครผู้ปฏิบัติงาน และการรับนักศึกษาฝึกงาน
    8. เพื่อการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุ งานนิติกรรมหรือสัญญา การเงิน และการบัญชี ของ สขญ. 
    9.  เพื่อการรักษาความปลอดภัย โดยอาจมีการตรวจสอบข้อมูลที่เก็บรวบรวม รวมถึงข้อมูลในกล้อง CCTV เพื่อป้องกันการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
    10.  เพื่อการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.๒๕๖๒ การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนี้ อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ระเบียบ ประกาศ หรือข้อกำหนดอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะออกใช้บังคับต่อไปในภายหน้า รวมถึงภายใต้บังคับแห่งบทกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องด้วย
    11. ปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่กฎหมายของ สขญ. หรือกฎหมายอื่นกำหนดให้ สขญ. ต้องปฏิบัติ

     ๒. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สขญ. เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

     เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ ๑ สขญ. เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังรายการต่อไปนี้

          ๒.๑ การให้บริการภายนอก สัมมนา และจัดการประชุม

หัวข้อ

รายละเอียด

๑.ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ สขญ.มีการเก็บรวบรวม

สขญ. อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด ได้แก่

  • ชื่อ นามสกุล
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
  • ข้อมูลการทำงาน เช่น ตำแหน่ง หน่วยงาน เป็นต้น
  • ข้อมูลการติดต่อผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น บัญชี Facebook หรือ Line ID เป็นต้น
  • รูปถ่าย และ/หรือวีดิทัศน์
  • ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ท่านให้ สขญ. โดยความสมัครใจ

๒. ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ใดบ้างที่ สขญ. มีการเก็บรวบรวม

-ไม่มี-

๓. เหตุผลที่ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมที่ สขญ. ได้จัดขึ้น
  • เพื่อให้การช่วยเหลือ ตอบข้อซักถาม หรือติดต่อกลับไปยังท่านเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งความคืบหน้าการดำเนินงาน
  • เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของ สขญ. ตามสื่อต่าง ๆ
  • เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์และจัดทำข้อมูลเชิงสถิติ โดยข้อมูลบางส่วน เช่น ข้อมูลหน่วยงาน เป็นต้น อาจถูกประมวลผลและแสดงผลเป็นข้อมูลในภาพรวมโดยวิธีการทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
  • เพื่อแจ้งข่าวสารของ สขญ.

๔. เหตุผลที่ สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจาก

  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้เข้าผูกพันกับ สขญ. หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญากับ สขญ. (Contract)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ และ
    เพื่อใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ สขญ. (Public Task / Official Authority)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ สขญ. (Legitimate Interest)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (Legal Obligation) (กรณีการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ
    การดำเนินงานตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนด)
  • ท่านได้ให้ความยินยอมกับ สขญ. (Consent) (กรณี สขญ. มีการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลนอกเหนือการให้บริการนั้น)

๕.  สขญ. มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายใน สขญ. เฉพาะผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน หรือผู้รับจ้างที่เป็นบุคคลภายนอก (Outsource) ที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลการดำเนินงานดังกล่าวให้กับ สขญ. (กรณีที่มีการว่าจ้าง) รวมถึง ผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) ที่ทำหน้าที่ตรวจประเมินตามระบบมาตรฐานการดำเนินกิจการนี้เท่านั้น

๖.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลนานเท่าใด

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บตลอดระยะเวลาการดำเนินกิจกรรม และจัดเก็บเป็นระยะเวลาอีกไม่เกิน ๕ ปี นับแต่วันที่สิ้นสุดการดำเนินกิจกรรม หรือหลังจากวันที่ท่านไม่มีสิทธิและหน้าที่ใดๆ
กับ สขญ.

๗.กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ

-ไม่มี-

          ๒.๒  การฝึกอบรม

หัวข้อ

รายละเอียด

๑.ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ สขญ.มีการเก็บรวบรวม

สขญ.อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด ได้แก่

  • ชื่อ นามสกุล 
  • หมายเลขบัตรประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง (กรณีที่มีการตรวจสอบสิทธิในการเข้าร่วมบางกิจกรรม หรือจองที่พักการเดินทางนอกพื้นที่) 
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น 
  • ข้อมูลการทำงาน เช่น ตำแหน่ง หน่วยงาน เป็นต้น
  • ข้อมูลการติดต่อผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น บัญชี Line ID เป็นต้น (กรณีที่มีการติดตามการดำเนินโครงการ)
  • รูปถ่าย และ/หรือวีดิทัศน์
  • ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ท่านให้ สขญ.โดยความสมัครใจ

๒. ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ใดบ้างที่ สขญ. มีการเก็บรวบรวม

-ไม่มี-

(ในกรณีที่ท่านจำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนเป็นหลักฐานประกอบการขอรับบริการ และในสำเนาบัตรประชาชนมีข้อมูล “ศาสนา” ทาง สขญ.จะไม่จัดเก็บข้อมูลนี้ โดยจะดำเนินการลบข้อมูลออก)

๓. เหตุผลที่ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • ลงทะเบียนเข้าร่วมการฝึกอบรมที่ สขญ. ได้จัดขึ้น และตรวจสอบสิทธิในการเข้าร่วมการฝึกอบรมบางกิจกรรม
  • ติดต่อกลับไปยังท่านเพื่อให้ความช่วยเหลือ ขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งความคืบหน้าการดำเนินงาน รวมถึงติดตามผลการดำเนินโครงการ
  • เผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ ผลการดำเนินงานของ สขญ. ตามสื่อต่าง ๆ
  • เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์และจัดทำข้อมูลเชิงสถิติ โดยข้อมูลบางส่วน เช่น ข้อมูลหน่วยงาน เป็นต้น อาจถูกประมวลผลและแสดงผลเป็นข้อมูลในภาพรวมโดยวิธีการที่ทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
  •  เพื่อแจ้งข่าวสารของ สขญ.
  • เพื่อจัดทำฐานข้อมูลผู้เข้ารับหรือผ่านการฝึกอบรม

๔. เหตุผลที่ สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจาก

  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้เข้าผูกพันกับ สขญ. หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญากับ สขญ. (Contract)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ และเพื่อใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ สขญ. (Public Task / Official Authority)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ สขญ.  (Legitimate Interest)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (Legal Obligation) (กรณีการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ
    การดำเนินงานตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนด)
  •  ท่านได้ให้ความยินยอมกับ สขญ. (Consent) (กรณี สขญ.
    มีการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลนอกเหนือการเข้าร่วมกิจกรรมนั้น)

๕.  สขญ. มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายใน สขญ. เฉพาะผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน
หรือผู้รับจ้างที่เป็นบุคคลภายนอก (Outsource) ที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลการดำเนินงานดังกล่าวให้กับ สขญ. (กรณีที่มีการว่าจ้าง) รวมถึง ผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) ที่ทำหน้าที่ตรวจประเมินตามระบบมาตรฐานการดำเนินกิจการนี้เท่านั้น

๖.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลนานเท่าใด

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บตลอดระยะเวลาการดำเนินกิจกรรม และจัดเก็บเป็นระยะเวลาอีกไม่เกิน ๕ ปี นับแต่วันที่สิ้นสุดการดำเนินกิจกรรม หรือหลังจากท่านไม่มีสิทธิและหน้าที่ใดๆ
กับ สขญ. เว้นแต่ ในกรณีการจัดเก็บเพื่อวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำฐานข้อมูลผู้เข้ารับหรือผ่านการฝึกอบรม สขญ. จะจัดเก็บข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว

๗. กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ

-ไม่มี-

          ๒.๓ การรับสมัครผู้ปฏิบัติงาน และการรับนักศึกษาฝึกงาน  

หัวข้อ

รายละเอียด

๑.ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ สขญ.มีการเก็บรวบรวม

สขญ. อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด ได้แก่

  • ชื่อ นามสกุล 
  • รูปถ่าย
  • หมายเลขบัตรประชาชน และข้อมูลที่ปรากฏบนบัตรประชาชน
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
  • ข้อมูลการศึกษา เช่น ผลการศึกษา สาขา และสถาบันการศึกษา เป็นต้น
  • ข้อมูลการทำงาน เช่น ตำแหน่ง หน่วยงาน เป็นต้น

๒. ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ใดบ้างที่ สขญ. มีการเก็บรวบรวม

-ไม่มี-

(ในกรณีที่ท่านจำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนเป็นหลักฐานประกอบ และในสำเนาบัตรประชาชนมีข้อมูล “ศาสนา” ทาง สขญ. จะไม่จัดเก็บข้อมูลนี้ โดยจะดำเนินการลบข้อมูลออก)

๓. เหตุผลที่ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • เพื่อพิจารณาคุณสมบัติ ทักษะ ความรู้และความสามารถของผู้สมัคร ในการรับเข้าทำงานหรือฝึกงานที่ สขญ. ตลอดจน
    การเข้าทำสัญญากับ สขญ.
  • เพื่อติดต่อประสานงาน ขอข้อมูลเพิ่มเติม ตอบข้อซักถาม หรือ
    แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานที่เกี่ยวกับการสมัครงานหรือฝึกงาน
  • เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์และจัดทำข้อมูลเชิงสถิติ โดยข้อมูลบางส่วน เช่น ข้อมูลหน่วยงาน เป็นต้น อาจถูกประมวลผล
    และแสดงผลเป็นข้อมูลในภาพรวมโดยวิธีการที่ทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

๔. เหตุผลที่ สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจาก

  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้เข้าผูกพัน
    กับ สขญ. หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญากับ สขญ. (Contract)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ สขญ.(Legitimate Interest)
  • ท่านได้ให้ความยินยอมกับ สขญ. (Consent) (กรณี สขญ. มี
    การเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลนอกเหนือการดำเนินงานนี้)

๕.  สขญ. มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายใน สขญ.
เฉพาะผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน รวมถึงผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) ที่ทำหน้าที่ตรวจประเมินตามระบบมาตรฐานการดำเนินกิจการนี้เท่านั้น

๖.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลนานเท่าใด

  • การรับสมัครผู้ปฏิบัติงาน ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมี
    การจัดเก็บเป็นระยะเวลาอีกไม่เกิน ๒ ปี นับแต่สิ้นสุดการพิจารณา (กรณีที่ไม่ผ่านการคัดเลือก)
  • การรับนักศึกษาฝึกงาน ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บเป็นระยะเวลาอีกไม่เกิน ๑ ปี นับแต่วันที่สิ้นสุดการฝึกงาน

๗. กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ

-ไม่มี-

          ๒.๔ การจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุ งานนิติกรรมหรือสัญญา การเงินและการบัญชี 

หัวข้อ

รายละเอียด

๑.ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ สขญ.มีการเก็บรวบรวม

สขญ. อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด ได้แก่

  • ชื่อ นามสกุล 
  • หมายเลขบัตรประชาชน และข้อมูลที่ปรากฏบนบัตรประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง และข้อมูลที่ปรากฏบนหนังสือเดินทาง (เฉพาะกรณีที่ท่านใช้หนังสือเดินทางแทนบัตรประชาชน เพื่อเป็นเอกสารประกอบการยื่นข้อเสนอ)
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
  • ข้อมูลการศึกษา เช่น สาขา และสถาบันการศึกษา เป็นต้น (เฉพาะในกรณีที่ท่านจำเป็นต้องใช้ข้อมูลการศึกษาเป็นเอกสารประกอบการยื่นข้อเสนอ)
  • ข้อมูลการทำงาน เช่น ตำแหน่ง หน่วยงาน ประวัติการทำงาน
    เป็นต้น (เฉพาะในกรณีที่ท่านจำเป็นต้องใช้ประวัติการทำงาน
    เป็นเอกสารประกอบการยื่นข้อเสนอ)
  • ข้อมูลบัญชีธนาคาร
  • ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ท่านให้ สขญ.โดยความสมัครใจ เพื่อเป็นเอกสารประกอบการยื่นข้อเสนอ

๒. ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ใดบ้างที่ สขญ. มีการเก็บรวบรวม

-ไม่มี-

(ในกรณีที่ท่านจำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนเป็นหลักฐานประกอบ และในสำเนาบัตรประชาชนมีข้อมูล “ศาสนา” ทาง สขญ. จะไม่จัดเก็บข้อมูลนี้ โดยจะดำเนินการลบข้อมูลออก)

๓. เหตุผลที่ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • เพื่อพิจารณาคุณสมบัติ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของ
    ผู้ยื่นข้อเสนอ เพื่อคัดเลือกและตัดสินใจให้เข้ามาดำเนินงานให้ สขญ.
  • เพื่อติดต่อประสานงาน ขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง
  • เพื่อประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือ
    ผู้ได้รับการคัดเลือกตามสื่อต่าง ๆ ที่ สขญ. กำหนด 
  • เพื่อประโยชน์ในการจัดทำนิติกรรมหรือสัญญาของ สขญ. 
  • เพื่อพิจารณาและดำเนินการรับ หรือจ่ายเงิน รวมถึงนำส่งภาษีและชำระภาษี อันเกิดจากการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของ สขญ. 
  • เพื่อติดต่อประสานงาน ขอข้อมูลเพิ่มเติม ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการดำเนินการด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุ การเงินและการบัญชี หรืองานนิติกรรมหรือสัญญา ของ สขญ. 
  • เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์และจัดทำข้อมูลเชิงสถิติ โดยข้อมูลบางส่วน เช่น ข้อมูลหน่วยงาน เป็นต้น อาจถูกประมวลผล
    และแสดงผลเป็นข้อมูลในภาพรวมโดยวิธีการที่ทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

๔. เหตุผลที่ สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจาก

  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้เข้าผูกพันกับ สขญ. หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญากับ สขญ.(Contract)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติงานตามที่กฎหมายกำหนด (Legal Obligation)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ สขญ.(Legitimate Interest)

๕.  สขญ. มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง

  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยและแบ่งปันให้กับหน่วยงานของรัฐ เช่น กรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าของระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP)
    หรือหน่วยงานของรัฐที่ สขญ. ต้องมีการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับ
    การจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายใน สขญ.  เฉพาะผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน และ/หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่ง สขญ.
    ต้องมีการจัดส่งข้อมูลทางการเงินให้ เช่น กรมสรรพากร เป็นต้น รวมถึง ผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) ที่ทำหน้าที่ตรวจประเมินตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามระบบมาตรฐาน
    การดำเนินกิจการนี้เท่านั้น

๖.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลนานเท่าใด

ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุ และงานนิติกรรมสัญญา

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บเป็นระยะเวลา ๑๐ ปี นับแต่สิ้นสุดสัญญา

ด้านการเงินและการบัญชี

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บเป็นระยะเวลา ๑๐ ปี นับแต่สิ้นสุดปีงบประมาณที่ดำเนินการรับหรือจ่ายเงิน

๗. กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ

-ไม่มี-

          ๒.๕ การรักษาความปลอดภัย

หัวข้อ

รายละเอียด

๑.ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ สขญ.มีการเก็บรวบรวม

สขญ. อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด ได้แก่

  • ชื่อ นามสกุล
  • ข้อมูลการทำงาน เช่น ตำแหน่ง หน่วยงาน เป็นต้น
  • ข้อมูลเลขทะเบียนรถยนต์/จักรยานยนต์
  • ภาพเคลื่อนไหวของท่านในขณะที่ท่านอยู่ในพื้นที่ของ สขญ. (CCTV)

๒. ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ใดบ้างที่ สขญ. มีการเก็บรวบรวม

-ไม่มี-

๓. เหตุผลที่ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ผู้ใช้บริการ และบุคคลอื่นที่เข้ามาภายใน สขญ. รวมถึงการดูแลทรัพย์สินของ สขญ.
  • เพื่อป้องกันการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 
  • ใช้เป็นหลักฐานกรณีเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายใน สขญ.

๔. เหตุผลที่ สขญ.ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

สขญ.ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจาก

  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ สขญ.(Legitimate Interest)

๕. สขญ. มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายใน สขญ. เฉพาะผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน รวมถึง ผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) ที่ทำหน้าที่ตรวจประเมินตามระบบมาตรฐานการดำเนินกิจการนี้เท่านั้น

๖.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลนานเท่าใด

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บเป็นระยะเวลาอีกไม่เกิน ๑ ปี นับแต่วันที่ท่านติดต่อหรือเข้าพื้นที่ สขญ. เว้นแต่ ภาพเคลื่อนไหวของท่านในขณะที่ท่านอยู่ในพื้นที่ของ สขญ. (CCTV) จะจัดเก็บเป็นระยะเวลาไม่เกิน ๙๐ วัน หรือเท่าที่มีเหตุจำเป็น

๗. กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ

-ไม่มี-

          ๒.๖ การใช้งานเว็บไซต์

หัวข้อ

รายละเอียด

๑.ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ สขญ.มีการเก็บรวบรวม

สขญ. อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด ได้แก่

  • ชื่อ นามสกุล
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
  • ข้อมูลการทำงาน เช่น ตำแหน่ง หน่วยงาน เป็นต้น
  • ข้อมูลการติดต่อผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น บัญชี Facebook หรือ Line ID เป็นต้น
  • รูปถ่าย และ/หรือ วีดิทัศน์
  • ข้อมูลชีวประวัติเบื้องต้น
  • ข้อมูลคุกกี้ (Cookies) 
  • IP Address
  • ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ท่านให้ สขญ. โดยความสมัครใจ

๒. ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ใดบ้างที่ สขญ. มีการเก็บรวบรวม

-ไม่มี-

๓. เหตุผลที่ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • เพื่อการลงทะเบียน การยืนยันตัวบุคคล การสมัครใช้บริการบนเว็บไซต์ และ/หรือ การจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์
  • เพื่อการประชาสัมพันธ์กิจกรรม โครงการ และสัมมนา ที่ท่านได้แสดงความสนใจเมื่อทำการลงทะเบียน
  • เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและบริการของเว็บไซต์

๔. เหตุผลที่ สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

สขญ. ได้รับการอนุญาตให้เก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจาก

  • เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ และ
    เพื่อใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ สขญ.(Public Task / Official Authority)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ สขญ.(Legitimate Interest)
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติงานตามที่กฎหมายกำหนด (Legal Obligation)
  • ท่านได้ให้ความยินยอมกับ สขญ. (Consent) (กรณี สขญ. มี
    การเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลนอกเหนือการเข้าร่วมกิจกรรมนั้น)

๕.  สขญ. มีการแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการเปิดเผยเป็นการภายใน สขญ. เฉพาะผู้ปฏิบัติงานของ สขญ. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน
หรือผู้รับจ้างที่เป็นบุคคลภายนอก (Outsource) ที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลการดำเนินงานดังกล่าวให้กับ สขญ. (กรณีที่มีการว่าจ้าง) รวมถึง ผู้ตรวจสอบภายนอก (External Auditor) ที่ทำหน้าที่ตรวจประเมินตามระบบมาตรฐานการดำเนินกิจการนี้เท่านั้น เว้นแต่เป็นข้อร้องเรียนที่มีหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายในเรื่องดังกล่าวโดยตรง กรณีนี้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมี
การเปิดเผยและแบ่งปันให้กับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้ามาดูแลและช่วยเหลือท่านตามแต่ละกรณี

๖.ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลนานเท่าใด

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บตลอดระยะเวลาการดำเนินกิจกรรมเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว

๗. กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ

-ไม่มี-

          ๒.๗ ข้อมูลส่วนบุคคล ประเภทคุกกี้ (Cookies)

          สขญ. ใช้เฉพาะคุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies) โดยคุกกี้ประเภทนี้

          มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สขญ. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สขญ. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

          ๒.๘ ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบกระดาษ

          ในกรณีที่ สขญ. จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในรูปแบบกระดาษ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีระยะเวลาจัดเก็บตามกฎหมายว่าด้วยงานสารบรรณ และกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ รวมถึงแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง หรือจนกว่าจะมีการแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

     ๓. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     สขญ. จะไม่เผยแพร่ จำหน่าย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ของท่านที่ สขญ. ได้เก็บรวบรวมไว้ให้แก่บุคคลอื่น (บุคคลภายนอก) เว้นแต่ การดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในประกาศนี้ หรือเมื่อได้รับการร้องขอหรือได้รับความยินยอมจากท่าน หรือเปิดเผยภายใต้บางสถานการณ์ ดังนี้

    1. เปิดเผยแก่หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 
    2. เปิดเผยแก่บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ
    3. เปิดเผยแก่บุคคลอื่นภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้ โดยในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน สขญ. จะขอความยินยอมจากท่านก่อนตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
    4. ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้าง หรือบุคคลใดๆ ที่ สขญ. ว่าจ้างหรือมอบหมายเพื่อให้บริการ หรือดำเนินการอย่างใดๆ ที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของสขญ. ซึ่งถือเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้ความรับผิดชอบของ สขญ. ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล โดย สขญ. จะจัดให้มีข้อตกลงหรือสัญญาระหว่างกัน เพื่อควบคุมการดำเนินงานตามหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้รับมอบหมายจาก สขญ. ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    5. ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น สขญ. จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด 
    6. สขญ. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อสาธารณะ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.bdi.or.th หรือสื่อสังคมออนไลน์ (social media) ของ สขญ. ในกรณีดังต่อไปนี้
      • ท่านใช้บริการของเว็บไซต์ในการแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหาที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงชื่อและนามสกุล
      • หากท่านได้รับอนุมัติสิทธิเป็นผู้มีสิทธิจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ และท่านได้จัดทำและเผยแพร่เนื้อหาในรูปแบบบทความบนเว็บไซต์ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกแสดงผลควบคู่กับเนื้อหาที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งรวมถึงชื่อ, นามสกุล, รูปถ่าย, อีเมล, อัตลักษณ์บนสื่อสังคมออนไลน์ (social media), และข้อมูลชีวประวัติเบื้องต้น
      • ท่านได้เข้าร่วมกิจกรรมที่จำเป็นต้องมีการประกาศรายชื่อ ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกในการเข้าร่วมกิจกรรม หรือการประกาศรางวัลหลังกิจกรรม ซึ่งรวมถึงชื่อและนามสกุล

     ๔. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ของท่าน

     พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

    1. สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ สขญ. เก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่ สขญ. มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
    2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
    3. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
      • เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ สขญ. ทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
      • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
      • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ สขญ. ได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้ สขญ.เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
      • เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ สขญ. กำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะอันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    1. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่ สขญ. มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น สขญ. สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของ สขญ. เป็นต้น)
    2. สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่ สขญ. ในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษา เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายหรือเงื่อนไขการใช้บริการให้ สขญ. จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไป
    3. สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก สขญ. ได้ในกรณีที่ สขญ. ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้ สขญ. ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด

     ๕. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

     ในบางกรณี สขญ. อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของ สขญ. ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม โดย สขญ. ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้

    1. เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ สขญ. ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
    2. ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
    3. เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับ สขญ. (ถ้ามี) หรือเป็นการทำตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
    4. เป็นการกระทำตามสัญญาของ สขญ. กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
    5. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
    6. เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

     ๖. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

     ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีการจัดเก็บและใช้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ หรือจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็น ตามวัตถุประสงค์และตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว  สขญ. จะดำเนินการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป

     อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาทการใช้สิทธิหรือคดีความหรือมีการตรวจสอบตามกระบวนการกฎหมาย เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กระทรวงการคลัง หรือหน่วยงานอื่นใดที่มีอำนาจตามกฎหมาย อันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน  สขญ. ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลนั้น ต่อไปจนกว่าข้อพิพาทจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด หรือการตรวจสอบนั้นจะสิ้นสุด

     ๗. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

     สขญ. มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติการรักษาด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของ สขญ.

     นอกจากนี้  สขญ. ได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดย สขญ. ได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม

     ๘. ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

     สขญ. ได้กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

     โดย สขญ. จะดำเนินการให้ผู้ปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด

     ๙. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

     ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้  สขญ. อาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ อย่างไรก็ดี  สขญ. ขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบ

     เพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจ้ะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ สขญ. โดยในการเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้วจะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว

     ๑๐. การติดต่อสอบถาม

     ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่

     เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)

     สถานที่ติดต่อ : สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) 

     ที่อยู่ : เลขที่ ๒๓๔/๔๓๒ ซอยลาดพร้าว ๑๒ แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ๑๐๙๐๐

     ช่องทางการติดต่อ :

     โทรศัพท์ : ๐ ๒๔๘๐ ๘๘๓๓ ต่อ ๙๕๐๓

      อีเมล : dpo@bdi.or.th

  •  
ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ “นโยบายคุ้กกี้” และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ “ตั้งค่า”

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ BDI ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ BDI รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ BDI ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ BDI ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ BDI จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ BDI ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ BDI แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.