การปรับกระบวนงานภาครัฐให้ทันสมัยและประชาชนสะดวกมากขึ้น

การปรับกระบวนงานภาครัฐให้ทันสมัยและประชาชนสะดวกมากขึ้น

27 มีนาคม 2563

ในชีวิตประจำวันเรามักต้องเจอกับงานหรือกิจกรรมหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน หากแต่เราไม่สามารถทำทุกอย่างได้ทั้งหมดในคราวเดียว เพราะเรามีทรัพยากรที่จำกัดเราจึงต้องมีการเลือกหรือจัดลำดับว่าจะทำอะไรก่อนหลัง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “แล้วจะจัดลำดับความสำคัญอย่างไร” หากเรามีเพียงแค่ไม่กี่เรื่องเราคงใช้สายตามองแล้วตัดสินใจได้ทันที แต่ในบางกรณี เช่น รัฐบาลต้องการปรับปรุงกระบวนงาน (Procedure) ซึ่งในปัจจุบันมีมากกว่า 4,000 กระบวนงาน ที่ต้องปรับเข้าสู่ดิจิทัล แล้วจะเลือกอย่างไรถึงจะเรียกได้ว่าเป็นการเลือกอย่างมีเหตุผล และเป็นที่ยอมรับ 

วิธีที่นิยมใช้กันทั่วไป ก็คือการคำนวณคะแนนความสำคัญในมิติต่าง ๆ ของงาน โดยวิธีคำนวณที่เรียกว่า Weighted Average คือ การนำคุณสมบัติของแต่ละงานมาแปลงเป็นตัวเลข และ ถ่วงน้ำหนักแต่ละคุณสมบัติ ตามความสำคัญ ตามที่เราต้องการตามสมการดังต่อไปนี้

เมื่อคำนวณค่าคะแนนของแต่ละงานและนำค่าที่ได้มา plot เป็นกราฟจะเห็นได้ชัดเจนถึงความแตกต่างของความสำคัญของแต่ละงาน โดยเมื่อคุณสมบัติหรือเกณฑ์เป็นตัวเลขทั้งหมด (ความจำเป็นในการ normalize ค่าคุณสมบัติ) เราสามารถนำค่าคุณสมบัติของเกณฑ์มาคำนวณได้เลย สมมติว่ากระบวนงานมีคุณสมบัติที่เป็นตัวเลขคือ จำนวนการใช้งานของกระบวนงานเฉลี่ยต่อเดือน จำนวนขั้นตอน และระยะเวลาดำเนินการ(วัน) เมื่อเราคำนวณค่าคะแนนของแต่ละกระบวนงาน โดยมีค่าน้ำหนักหรือ weight เป็น จำนวนการใช้งานของกระบวนงานเฉลี่ยต่อเดือนเป็น 5 จำนวนขั้นตอนเป็น 2 และระยะเวลาดำเนินการเป็น 3 จะได้

ชื่อกระบวนงานจำนวนการใช้งานของกระบวนงานเฉลี่ยต่อเดือนจำนวนขั้นตอนระยะเวลาดำเนินการ (วัน)คะแนน
กระบวนงาน A50,00050.525001.15
กระบวนงาน B15,000227501
กระบวนงาน C20001071004.1

จะพบว่าการมองค่าคะแนนนั้นตีความได้ยาก ว่าคะแนนนั้นมากหรือน้อย วิธีการคือการปรับค่าเกณฑ์แต่ละเกณฑ์ให้มีค่าอยู่ระหว่าง 0 ถึง 1 เรียกว่าการ normalize ข้อมูล โดยการคำนวณทั่วไปจะเป็นดังสมการ

ชื่อกระบวนงานจำนวนการใช้งานของกระบวนงานเฉลี่ยต่อเดือนจำนวนการใช้งานของกระบวนงานเฉลี่ยต่อเดือน(normalized)จำนวนขั้นตอนจำนวนขั้นตอน(normalized)ระยะเวลาดำเนินการ (วัน)ระยะเวลาดำเนินการ (วัน) (normalized)
กระบวนงาน A50,0001.0050.380.50.000.575
กระบวนงาน B15,0000.2720.0020.230.204
กระบวนงาน C20000.00101.0071.000.5

หลังจากนำคะแนนของแต่ละกระบวนงานมา plot เป็น graph จะเห็นถึงการกระจายตัวของคะแนนของแต่ละกระบวนงาน

กราฟแสดงค่าคะแนน(ความสำคัญ) ของแต่ละกระบวนงาน

ในกรณีอื่น ๆ ที่ค่าเกณฑ์ไม่ได้เป็นตัวเลข เราจำเป็นต้องแปลงค่าเหล่านั้นให้เป็นตัวเลข เช่น การแปลงค่าความรู้สึกจาก ดีมาก ดี ปานกลาง น้อย น้อยมาก เป็นตัวเลข 5 4 3 2 1 ตามลำดับ เพื่อให้สามารถนำไปคำนวณเป็นค่าคะแนนที่เป็นตัวเลขได้ สำหรับการจัดลำดับความสำคัญด้วยวิธีการคำนวณนี้ เราสามารถคำนวณคะแนนในหลายมิติเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ ในกรณีของกระบวนงานภาครัฐจะคำนวณคะแนนในมิติของผลกระทบและมิติความพร้อมของกระบวนงาน เพื่อใช้ในการตัดสินใจ โดยจะแบ่งกระบวนงานออกเป็น 4 กลุ่มด้วยกัน นั่นคือ 

  1. กระบวนงานที่มี Impact สูงและ Readiness สูง 
  2. กระบวนงานที่มี Impact ต่ำแต่มี Readiness สูง 
  3. กระบวนงานที่มี Impact สูงแต่ Readiness ต่ำ 
  4. กระบวนงานที่มี Impact ต่ำและมี Readiness ต่ำ 

เกณฑ์ที่ใช้สำหรับการคำนวณผลกระทบ (Impact) คือ ปริมาณธุรกรรมเฉลี่ยต่อเดือน (transaction per month) ระยะเวลาดำเนินการ จำนวนขั้นตอน ระดับความสำคัญ (บริการทั่วไป หรือ มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ) เกณฑ์ที่ใช้สำหรับการคำนวณความพร้อมของกระบวนงานในด้านดิจิทัล (Readiness) คือ ร้อยละของเอกสารที่เชื่อมโยงแล้วของกระบวนงานนั้น ๆ และจำนวนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนงานนั้น (จำนวนยิ่งน้อยยิ่งดี)

รูปตัวอย่างการแสดงกระบวนงานบนจตุภาคตาม Impact และ Readiness

สำหรับลำดับความสำคัญในการเลือกกระบวนงานเพื่อปรับเข้าสู่ดิจิทัลจะเริ่มจากกลุ่มที่ 1 ต่อด้วยกลุ่มที่ 2 ต่อด้วยกลุ่มที่ 3 และในลำดับสุดท้ายคือกลุ่มที่ 4 การจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มนี้ เพราะว่ากลุ่มที่ 1 จะมี Impact และ Readiness มากที่สุดจึงได้รับความสำคัญเป็นลำดับแรก ต่อสาเหตุที่กลุ่มที่ 2 มีลำดับความสำคัญมากกว่ากลุ่มที่ 3 เนื่องจากในกลุ่มที่ 2 มีความพร้อมมากจึงทำให้เกิดผลได้อย่างรวดเร็วต่างกับกลุ่มที่ 3 ถึงแม้จะมี Impact มากกว่าแต่ต้องใช้ทรัพยากรในการเตรียมความพร้อมมากนำมาสู่ความล่าช้าในการปรับกระบวนงานโดยรวมและสุดท้ายกลุ่มที่ 4 มีทั้ง Impact และ Readiness น้อยที่สุดจึงมีลำดับความสำคัญน้อยที่สุด ทั้งนี้ในเบื้องต้นถึงแม้จะมีการคำนวณความสำคัญในสองมิติแต่ในอนาคตอาจจะเพิ่มในมิติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ค่าใช้จ่ายหรือมิติอื่น ๆ ซึ่งผลวิเคราะห์ดังกล่าวจะนำไปเป็นแนวทางในการตัดสินใจในขั้นตอนต่อไป เพื่อให้การปรับกระบวนงานเกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

Formal Data Scientist
Government Big Data Institute (GBDi)

แบ่งปันบทความ

กลุ่มเนื้อหา

แท็กยอดนิยม

แจ้งเรื่องที่อยากอ่าน

คุณสามารถแจ้งเรื่องที่อยากอ่านให้เราทราบได้ !
และเราจะนำไปพัฒนาบทความให้มีเนื้อหาที่น่าสนใจมากขึ้น

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ “นโยบายคุ้กกี้” และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ “ตั้งค่า”

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ BDI ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ BDI รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ BDI ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ BDI ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ BDI จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ BDI ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ BDI แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.