การผสานพลังของ Big Data และ Blockchain ในยุคดิจิทัล 

การผสานพลังของ Big Data และ Blockchain ในยุคดิจิทัล 

18 สิงหาคม 2568

ในยุคที่ข้อมูลเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด Big Data และ Blockchain ได้กลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก ความก้าวหน้าทางด้านการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และระบบการบันทึกข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง (Blockchain) ได้สร้างโอกาสใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับองค์กรและสังคมในภาพรวม 

Big Data เครื่องมือสำคัญในการตัดสินใจ 

Big Data หมายถึงการรวบรวมและประมวลผลข้อมูลในปริมาณมหาศาลที่มาจากหลากหลายแหล่ง เช่น โซเชียลมีเดีย IoT (Internet of Things) และธุรกรรมทางธุรกิจ เป็นต้น Big Data ถูกนำมาใช้ในหลายด้าน เช่น การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กร และการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต โดยมีเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ความท้าทายในอุตสาหกรรม Big Data  

อุตสาหกรรม Big Data เผชิญกับความท้าทายหลายประการที่ส่งผลต่อการนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหัวข้อหลัก ๆ ดังนี้ 

1. ความซับซ้อนของโครงสร้างพื้นฐาน 

องค์กรหลายแห่งต้องเผชิญกับปัญหาความซับซ้อนในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่มีอยู่ โดยเฉพาะองค์กรที่มีประวัติการดำเนินงานมายาวนาน ซึ่งอาจมีระบบที่ไม่เข้ากันหรือมีการเปลี่ยนแปลงระบบบ่อยครั้ง ทำให้เกิดหนี้ทางเทคนิค (Technical debt) ที่ต้องจัดการ 

2. การจัดการข้อมูลที่หลากหลาย 

ข้อมูลใน Big Data มักมีรูปแบบและแหล่งที่มาที่หลากหลาย เช่น ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย IoT และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งทำให้การรวบรวมและประมวลผลข้อมูลเป็นไปได้ยาก 

3. ความท้าทายด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย 

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดความเป็นส่วนตัว การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยองค์กรต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ในประเทศไทย 

4. ขาดทักษะและความรู้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 

การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ต้องการทักษะเฉพาะทางและเครื่องมือที่ทันสมัย แต่หลายองค์กรยังขาดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการจัดการและวิเคราะห์ Big Data อย่างมีประสิทธิภาพ 

5. ต้นทุนในการลงทุนและบำรุงรักษา 

การสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ Big Data ต้องใช้ทั้งเวลาและเงินลงทุนสูง องค์กรขนาดเล็กหรือกลางอาจพบว่าต้นทุนในการลงทุนสูงเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับผลตอบแทนที่ได้รับ 

6. การประมวลผลแบบเรียลไทม์ 

ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคดิจิทัล แต่ก็เป็นความท้าทายที่ต้องใช้เทคโนโลยีและทรัพยากรที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว 

7. การสร้างคุณค่าให้กับข้อมูล 

แม้ว่าจะมีข้อมูลจำนวนมาก แต่การทำให้ข้อมูลเหล่านั้นกลายเป็นคุณค่าเชิงธุรกิจยังคงเป็นความท้าทาย เนื่องจากต้องอาศัยการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อค้นหา Insight ที่มีประโยชน์ การจัดการกับความท้าทายเหล่านี้จึงจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ที่ชัดเจน รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ และการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการ Big Data อย่างมีประสิทธิภาพ 

Blockchain ระบบที่โปร่งใสและปลอดภัย 

Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการบันทึกข้อมูลในรูปแบบของบัญชีแยกประเภทที่กระจายและปลอดภัย โดยข้อมูลจะถูกจัดเก็บในหน่วยที่เรียกว่า “บล็อก” ซึ่งแต่ละบล็อกจะเชื่อมโยงกันเป็น “สายโซ่” (chain) ผ่านการเข้ารหัส ((cryptography) ทำให้ข้อมูลที่ถูกบันทึกไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้โดยง่าย ซึ่งช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัยในกระบวนการต่าง ๆ เช่น การทำธุรกรรมทางการเงิน การจัดการซัพพลายเชน และการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เทคโนโลยีนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการโกงและเพิ่มความไว้วางใจระหว่างผู้เกี่ยวข้อง 

คุณสมบัติหลักของ Blockchain 

1. กระจายศูนย์ (Decentralization) 

ข้อมูลใน Blockchain ถูกเก็บไว้ในเครือข่ายของคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง ทำให้ไม่มีหน่วยงานกลางที่ควบคุมข้อมูลทั้งหมด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีหรือการทุจริต 

2. ความโปร่งใส (Transparency) 

ทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นในเครือข่ายจะถูกบันทึกและสามารถตรวจสอบได้โดยผู้เข้าร่วมทุกคน ทำให้มีความโปร่งใสในการดำเนินงาน 

3. ความปลอดภัย (Security) 

การใช้การเข้ารหัสและการเชื่อมโยงระหว่างบล็อกทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในบล็อกใด ๆ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทุกบล็อกถัดไป ซึ่งต้องใช้พลังการประมวลผลจำนวนมาก 

4. ความไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (Immutability) 

เมื่อข้อมูลถูกบันทึกลงใน Blockchain แล้ว จะไม่สามารถแก้ไขหรือทำลายได้ ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง 

การรวมกันของ Big Data และ Blockchain ก่อให้เกิดแนวทางใหม่ในการจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งมีหัวข้อที่น่าสนใจหลายประการ ดังนี้ 

1. การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว    

Blockchain สามารถช่วยในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเก็บใน Big Data โดยการสร้างบันทึกที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งทำให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากขึ้น 

2. การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์    

การใช้ Blockchain ร่วมกับ Big Data ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการเงินที่ต้องการการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เช่น การตรวจสอบธุรกรรมข้ามประเทศ 

3. การปรับปรุงคุณภาพข้อมูล    

การจัดเก็บข้อมูลใน Blockchain ช่วยให้ข้อมูลมีโครงสร้างที่ดีขึ้นและสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้การวิเคราะห์ข้อมูลมีความแม่นยำมากขึ้น 

4. การแบ่งปันและการสร้างรายได้จากข้อมูล    

การรวม Blockchain กับ Big Data ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของตนเองได้ และสามารถสร้างรายได้จากข้อมูลที่แชร์ได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง การรวมพลังของทั้งสองสามารถสร้างประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับองค์กรและสังคม หากมีการพัฒนาและนำไปใช้อย่างเหมาะสม เทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นตัวเร่งให้เกิดนวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในโลกดิจิทัลได้อย่างแท้จริง 

ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่เป็นการผสานรวมเทคโนโลยีทางด้าน Big Data และ Blockchain เช่น แพลตฟอร์ม Health Link ซึ่งเป็นระบบดูแลข้อมูลสุขภาพ โดยใช้ Blockchain ทำหน้าที่เป็นรากฐานด้านความปลอดภัยและความโปร่งใส สำหรับการจัดเก็บเวชระเบียน และการทำธุรกรรมด้านสุขภาพ ทำให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ และมั่นใจได้ว่าข้อมูลจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข นอกจากนี้ การใช้เทคนิคการเข้ารหัสขั้นสูงยังช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ทางด้านเทคโนโลยี Big Data จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เชื่อถือได้นี้ในการวิเคราะห์เชิงลึกต่อไป 

การทำงานร่วมกันของ Big Data และ Blockchain นี้ช่วยให้ Health Link สามารถปรับปรุงการติดตามผู้ป่วยและการดูแลรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลจากหลายแหล่ง ทำให้สามารถวินิจฉัยทางการแพทย์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น และสร้างมาตรฐานทางการแพทย์ได้ นอกจากนี้ยังช่วยตรวจสอบความสมบูรณ์ของการทดลองทางคลินิก และสร้างช่องทางการแบ่งปันข้อมูลที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม โดยสรุปแล้ว การผสมผสานระหว่าง Big Data และ Blockchain จะช่วยให้ Health Link สามารถจัดการข้อมูลสุขภาพได้อย่างปลอดภัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพของการดูแลผู้ป่วย การวินิจฉัยที่แม่นยำ และการวิจัยทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น สามารถศึกษารายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ https://healthlink.go.th 

เอกสารอ้างอิง 

  1. Wang S. Ouyang L. & Yuan Y. (2022). Integration of Blockchain and Big Data A Comprehensive Review. Journal of Big Data 9(1) 1-18. https//doi.org/10.1186/s40537-022-00534-7 
  1. Nakamura H. & Tanaka K. (2023). Enhancing Healthcare Systems with Blockchain and Big Data. Healthcare Technology Letters 10(3) 45-59. https//doi.org/10.1049/htl.2023.0005 
  1. Patel R. & Singh A. (2024). Real-Time Data Analytics with Blockchain Scalability. International Journal of Information Management 67 102567. https//doi.org/10.1016/j.ijinfomgt.2024.102567 
  1. Gupta P. & Verma S. (2022). Challenges in Integrating Big Data and Blockchain Technologies. Proceedings of the International Conference on Emerging Technologies in Computing. https//doi.org/10.1109/icetc.2022.00027 
Jitladaporn Somkleeb

แบ่งปันบทความ

กลุ่มเนื้อหา

แท็กยอดนิยม

แจ้งเรื่องที่อยากอ่าน

คุณสามารถแจ้งเรื่องที่อยากอ่านให้เราทราบได้ !
และเราจะนำไปพัฒนาบทความให้มีเนื้อหาที่น่าสนใจมากขึ้น

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ “นโยบายคุ้กกี้” และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ “ตั้งค่า”

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ BDI ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ BDI รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ BDI ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ BDI ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ BDI จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ BDI ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ BDI แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า