SMEs

SMEs

ข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง

Related news and articles

PostType Filter En

บทความ

BDI ร่วมกับ ดีป้า และ TCT ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย ด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ ปัญญาประดิษฐ์ และดิจิทัล
17 ธันวาคม 2568, กรุงเทพฯ – BDI จับมือ ดีป้า และ TCT ประกาศความร่วมมือการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ ปัญญาประดิษฐ์ และดิจิทัล พร้อมวางแผนเดินสายถ่ายทอดองค์ความรู้และกลไกส่งเสริมใน 9 พื้นที่ เชื่อความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยวางรากฐานให้ทุกภาคส่วนสามารถใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือยกระดับการทำงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวของไทยให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TCT) ประกาศความร่วมมือการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ ปัญญาประดิษฐ์ และดิจิทัล (Shaping Thai Tourism by Big Data, AI & Digital Transformation) โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมงานโดยพร้อมเพรียง ณ อาคาร ดีป้า (สำนักงานใหญ่) ซอยลาดพร้าว 10 เขตจตุจักร นางสาววิชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดท่องเที่ยวโลกมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม พฤติกรรมนักท่องเที่ยว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทำให้การบริหารจัดการและการกำหนดนโยบายจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้อง ครอบคลุม ทันสมัย เพื่อประกอบการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ ข้อมูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการยกระดับการวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งด้านพฤติกรรมนักท่องเที่ยว แนวโน้มการเดินทาง ความต้องการของตลาด และการคาดการณ์เชิงสถิติ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในเชิงนโยบายภาครัฐ และเชิงกลยุทธ์ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งนี้เพื่อตอบรับกับความต้องการในการยกระดับศักยภาพ BDI และ ดีป้า จึงเข้ามาสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลที่สำคัญของความร่วมมือการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ ปัญญาประดิษฐ์ และดิจิทัล ด้าน ศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) กล่าวว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ตลาดท่องเที่ยวโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การบริหารจัดการและการกำหนดทิศทางเชิงนโยบายต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย ซึ่งข้อมูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มีบทบาทสำคัญที่จะช่วยให้หน่วยงานและผู้ประกอบการเข้าใจพฤติกรรมนักท่องเที่ยว แนวโน้มการเดินทาง และความต้องการของตลาดได้อย่างลึกซึ้ง อีกทั้งนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เพิ่มความแม่นยำในการวางแผน และยกระดับการตัดสินใจให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ BDI ได้พัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยวแห่งชาติ (TRAVEL LINK) เพื่อเป็นเครื่องมือกลางในการรวบรวม เชื่อมโยง และบริหารจัดการข้อมูลการท่องเที่ยวจากหลากหลายแหล่ง อีกทั้งเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สามารถนำไปต่อยอดด้วยการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจได้อย่างเป็นรูปธรรมในระดับพื้นที่และระดับประเทศ โดย BDI มองว่า การนำข้อมูลและแพลตฟอร์มไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างแท้จริง และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเชิงนโยบายและเชิงธุรกิจ จำเป็นต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยว จึงเป็นที่มาของโครงการอบรมภายใต้ความร่วมมือกับ TCT และ ดีป้า เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้กับบุคลากรภาครัฐและภาคเอกชน ขณะที่ ดร.ปรีสาร รักวาทิน รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีความสำคัญอย่างยิ่งในบริบทของเศรษฐกิจไทย โดยมีสัดส่วนต่อ GDP ที่สูงและมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจฐานรากอย่างมหาศาล ด้วยเหตุนี้ ดีป้า จึงได้ร่วมกับ TCT และ BDI สนับสนุนภาคการท่องเที่ยว โดยส่งเสริมให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ ซึ่ง ดีป้า ได้ทำงานภายใต้กลไก AI Transformation ที่ครอบคลุมทั้งการเตรียมพร้อมกำลังคนดิจิทัล ควบคู่กับการยกระดับ Digital & AI Solution ซึ่งเปรียบเสมือนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญแห่งโลกอนาคต นอกจากนี้ ดีป้า ยังได้ดำเนินโครงการ AI Transformation โดยส่งเสริมให้เกิดการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลที่ขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรม ผ่านการสนับสนุนใน 2 รูปแบบ ได้แก่ การยกระดับธุรกิจด้วยดิจิทัลตามมาตรการ d-transform และการส่งเสริมการเริ่มต้นใช้งานดิจิทัลผ่านมาตรการ d-voucher ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://aitransform.depa.or.th ทั้งนี้ สามหน่วยงานพร้อมเดินหน้าถ่ายทอดองค์ความรู้และกลไกส่งเสริมการนำเทคโนโลยีดิจิทัล ข้อมูลขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ พร้อมตั้งเป้าขยายการดำเนินงานให้ครอบคลุม 22 จังหวัดท่องเที่ยวหลัก เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในระดับสากล โดยในระยะเริ่มต้นจะจัดกิจกรรมโรดโชว์เพื่ออบรม ถ่ายทอดองค์ความรู้ใน 9 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย อุดรธานี ขอนแก่น บุรีรัมย์ ระยอง พระนครศรีอยุธยา กระบี่ พื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และเพชรบุรี และพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจใช้ประโยชน์จากข้อมูลด้านการท่องเที่ยว รวมไม่น้อยกว่า 1,000 คน ทุกหน่วยงานเชื่อว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการวางรากฐานให้ทุกภาคส่วนสามารถใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือยกระดับการทำงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
17 December 2025

บทความ

BDI ออกบูทงาน SMEs D-DAY: DIGITAL BOOST ร่วมสร้างกลไกผสาน “นโยบาย – เทคโนโลยี - การเงิน” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตก้าวกระโดดในทุกมิติ
7 พฤศจิกายน 2568 – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดยเจ้าหน้าที่ กลุ่มงานส่งเสริมธุรกิจและองค์ความรู้ ร่วมจัดแสดงนิทรรศการแสดงศักยภาพนวัตกรรมด้วยการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อขับเคลื่อนประเทศในทุกมิติ ภายในงาน SMEs D-DAY: DIGITAL BOOST จัดขึ้นโดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ร่วมกับ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) กรุงเทพฯ ภายในงาน BDI ได้นำเสนอศักยภาพนวัตกรรมด้านข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาทของข้อมูลในการขับเคลื่อนประเทศในทุกมิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ผ่านโครงการ The UP 2025: Unlock Potential with Data อีกหนึ่งโครงการสำคัญที่มุ่งสร้าง Data-driven Entrepreneur รุ่นใหม่มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ BDI มุ่งมั่นร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกลไกสำคัญสู่การผสาน “นโยบาย – เทคโนโลยี – การเงิน” เพื่อยกระดับศักยภาพธุรกิจไทยในยุคที่เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven Economy) สำหรับงานนี้เป็นการผนึกกำลังจาก 3 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อร่วมกันผลักดัน SMEs นำเทคโนโลยีมาใช้งานจริง พร้อมประกาศความร่วมมือเพื่อยกระดับธุรกิจการค้าด้วยดิจิทัล หวังร่วมกันสร้าง SMEs ไทย พร้อมแข่งขันในโลกแห่ง AI และเทคโนโลยี เพื่อพลิกฟื้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดและทันโลกยุคดิจิทัล
7 November 2025

บทความ

BDI เปิดเวทีระดมความเห็นแลกเปลี่ยนมุมมองผู้ใช้ข้อมูล ผ่าน Focus Group ครั้งที่ 2 กำหนดกลยุทธ์ขับเคลื่อนการใช้ Big Data & AI ยกระดับขีดความสามารถทุกภาคส่วน
2 กรกฎาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ และศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดกิจกรรม Focus Group ครั้งที่ 2 เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อ “(ร่าง) แผนกลยุทธ์ที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดด้านข้อมูลขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้กับผู้ประกอบการในประเทศไทย โดยมี ดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและประสานเครือข่าย เข้าร่วมรับฟังข้อเสนอแนะจากกลุ่มเป้าหมายหลากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมเกือบ 100 องค์กร ณ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และออนไลน์ กิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการระดมความคิดเห็นต่อยอดมาจากครั้งแรกที่จัดขึ้นในหัวข้อ “ความคาดหวังและอุปสรรคในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และเทคโนโลยี AI” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการจัดทำแผนกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนตลาดด้านข้อมูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ สำหรับโครงการดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อมุ่งเน้นกลุ่มผู้ใช้ข้อมูล เป็นศูนย์กลางของการออกแบบนโยบายและกลไกสนับสนุนที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในแต่ละภาคส่วนโดยมุ่งเน้นการสอบถามถึงพฤติกรรมการใช้ข้อมูล ประเภทของข้อมูลที่ต้องการ อุปสรรคในการเข้าถึง และความคาดหวังต่อบริการข้อมูลของภาครัฐ
2 July 2025

บทความ

BDI ร่วมแชร์มุมมองในงาน AWS AI Day Thailand 2025 เพื่อขับเคลื่อน AI Ecosystem ตามแผนยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ
1 กรกฎาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย ดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและประสานเครือข่าย เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ Building Thailand’s AI Foundation: From National Foundation Models to Inclusive Innovation ในงาน AWS AI Day Thailand 2025 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ดร.อภิวดี กล่าวว่า การลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มีองค์ประกอบหลากหลาย ทั้งเชิงทักษะ และโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงธรรมาภิบาลในการพัฒนาและใช้งาน AI ภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความพร้อม Readiness ที่ประกอบไปด้วย AI Taskforce, Infrastructure และ AI Governance ในขณะเดียวกันก็ต้องสร้าง Use Cases ให้เกิดการ Adoption ใช้งานจริงได้ทันท่วงที พร้อมยกตัวอย่าง โครงการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) สำหรับภาษาไทย (ThaiLLM) ซึ่งเป็นโครงการแรกของ BDI ในการพัฒนา Open Source AI Infrastructure รวมไปถึง National Data Bank เพื่อคนไทย ที่จะช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการไทยทุกระดับ สามารถมีจุดตั้งต้นที่จะนำไปต่อยอดพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ จนสร้าง Sovereign AI สามารถก้าวกระโดดเท่าทันเทคโนโลยีระดับโลก “นอกจากนี้ในส่วนฝั่ง Adoption ที่ภาครัฐมุ่งเน้นให้เกิดการประยุกต์ใช้เป็นอันดับแรกเพื่อสร้างผลกระทบในวงกว้างจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ Public Service, Healthcare, Educational Technology, Tourism และอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งเราต้องปรับตัวใช้งานเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างกลไกสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ของประเทศไทย (Thai AI Collaboration) สู่การสร้างระบบนิเวศ AI ของประเทศ (AI Ecosystem) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันตามแผนยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ” ดร.อภิวดี กล่าวทิ้งท้าย สำหรับงาน AWS AI Day Thailand 2025 จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีสำคัญในการเปิดโอกาสร่วมแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ ซึ่งรวบรวมผู้นำและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายภาคส่วน ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของประเทศไทย สู่การสนับสนุนการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศ ซึ่งการพัฒนา AI จะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน การยกระดับบริการสาธารณะ และการสร้างประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมอย่างแท้จริง
1 July 2025

บทความ

BDI เดินหน้าขยายแพลตฟอร์ม “Travel Link” เจาะลึก 22 จว. ครบหัวเมืองหลักด้านการท่องเที่ยว เสริมศักยภาพ SMEs หนุนภาครัฐ-เอกชนกำหนดกลยุทธ์ ขานรับนโยบายรัฐ เที่ยวได้ตลอดปี
11 มิถุนายน 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เร่งขับเคลื่อนการใช้ “Travel Link” แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวอัจฉริยะ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยในการเข้าถึงอินไซต์นักท่องเที่ยวเชิงลึกด้วย Big Data และ AI พร้อมเสริมแกร่งศักยภาพ SMEs เตรียมขยายการวิเคราะห์เจาะลึกพฤติกรรมนักท่องเที่ยวครบ 22 จังหวัดหัวเมืองหลัก คาดแล้วเสร็จภายในปี 2569 รองรับการวางแผนเชิงกลยุทธ์ของทั้งภาครัฐและเอกชน สอดรับนโยบายรัฐในการกระตุ้นการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี และกระจายรายได้สู่เมืองรองอย่างยั่งยืน รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) กล่าวว่า จากข้อมูลในแดชบอร์ดบนแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านท่องเที่ยวแห่งชาติ หรือ Travel Link พบว่า ในช่วงต้นปี 2568 ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม มีผู้โดยสารชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยจากทุกช่องทาง (ด่านอากาศ, ด่านบก และด่านน้ำ) มากกว่า 17 ล้านคน สะท้อนถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง ดังนั้น การวางนโยบายและแผนการดำเนินงาน จึงไม่อาจอ้างอิงเพียงประสบการณ์ หรือการคาดการณ์ดังเช่นในอดีต การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที จึงเป็นหัวใจหลักในการบริหารองค์กร และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน แพลตฟอร์ม Travel Link จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญ ที่จะช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ได้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค พร้อมกับคาดการณ์ฤดูกาลท่องเที่ยวทั้งช่วงไฮซีซันและโลว์ซีซัน รวมถึงการวางแผนขยายบริการ หรือสื่อสารการตลาดไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพใหม่ ๆ ด้วยข้อมูลที่ถูกถ่ายทอดผ่านฟีเจอร์สำคัญซึ่งออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ ผ่าน 4 ไฮไลต์ ได้แก่ · สถิติจำนวนชาวต่างชาติขาเข้ารายเดือน ระบบจะแสดงจำนวนผู้โดยสารต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยจากทุกด่าน โดยสามารถกรองข้อมูลตามสัญชาติหรือทวีป เพื่อระบุพฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน · การเปรียบเทียบจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้ การนำเสนอข้อมูลการเปรียบเทียบระหว่างจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดในช่วงเวลาต่าง ๆ ทั้งแบบรายเดือนและรายปี · ภาพรวมผู้เยี่ยมเยือนรายภาคและรายจังหวัด สรุปข้อมูลจำนวนผู้เยี่ยมเยือน รายได้รวม และรายได้เฉลี่ยต่อนักท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัด พร้อมฟังก์ชันการกรองตามสัญชาติ หรือประเภทนักท่องเที่ยว เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนบริการได้ตรงจุด · การวิเคราะห์รีวิวจาก TripAdvisor เชิงลึก นำความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวจากแพลตฟอร์มชั้นนำมาวิเคราะห์ทั้งเชิงเนื้อหาและอารมณ์ (Sentiment Analysis) เพื่อทำความเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน ความพึงพอใจ และความคาดหวังของนักท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ “โดย BDI ตั้งเป้าขยายแพลตฟอร์ม Travel Link เจาะลึกการวิเคราะห์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ครอบคลุม 22 จังหวัด ครบหัวเมืองหลักด้านการท่องเที่ยว คาดแล้วเสร็จภายในปี 2569 Travel Link ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มด้านข้อมูล แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยข้อมูล ที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน เสริมศักยภาพในการวางแผนและตัดสินใจให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยอย่างรอบด้าน เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในระยะยาว อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบายภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ ‘เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568’ หรือ ‘เมืองน่าเที่ยว’ ที่มุ่งกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซัน เพื่อกระจายรายได้สู่เมืองหลักและเมืองรองทั่วประเทศ” รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล กล่าวทิ้งท้าย
11 June 2025

บทความ

BDI จัดกิจกรรม OPEN HOUSE ลุยต่อเนื่อง "The UP 2025: Unlock Potential with Data -- Scaling up Business Program" ปีที่ 2 โปรแกรมเข้มข้นขึ้น เปิดรับ SMEs มากขึ้น
23 เมษายน 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI จัดกิจกรรม OPEN HOUSE ปลดล็อกธุรกิจให้เติบโต ด้วยพลังของข้อมูล! ภายใต้โครงการ “The UP 2025: Unlock Potential with Data — Scaling up Business Program” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท โดยมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังเกือบ 100 ราย โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุนทรีย์ ส่งเสริม รองผู้อำนวยการสถาบันฯ กล่าวเปิดงานและแนะนำวิสัยทัศน์ที่จะช่วย ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด หนึ่งในพันธกิจหลักของ BDI คือ การเป็นพาร์ตเนอร์ให้กับภาคธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs ในการผลักดันการใช้ข้อมูลให้กลายเป็นทรัพยากรสำคัญเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจ วางกลยุทธ์ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ข้อมูลในทุกมิติของธุรกิจ ตั้งแต่การเข้าใจลูกค้า การบริหารต้นทุน ไปจนถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ สู่การสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน ดร.สุนทรีย์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ The UP จะได้เรียนรู้การใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาธุรกิจของตนอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการประเมินศักยภาพและความพร้อมของแต่ละกิจการ มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ไปจนถึงการวางแผนการเก็บข้อมูล และบริหารจัดการข้อมูลอย่างเหมาะสมกับบริบทของกิจการ ซึ่งนำไปสู่การจัดทำ Data Roadmap ได้อย่างเป็นรูปธรรม จุดเด่นของโครงการ คือ การได้รับคำปรึกษาแบบรายกิจการที่ตอบโจทย์เฉพาะของแต่ละกิจการ พร้อมการทำงานร่วมกับ Mentor ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถมองเห็นทางเลือกใหม่ นำไปสู่การทดลองใช้เครื่องมือหรือแนวคิดใหม่ ๆ และนำไปใช้งานในระดับปฏิบัติการได้จริง ด้าน ดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและประสานเครือข่าย BDI กล่าวแนะนำโครงการ The UP 2025 ว่า จากความสำเร็จของปีที่ผ่านมา BDI จึงเดินหน้าจัดโครงการในปีนี้อย่างเข้มข้นขึ้น เปิดรับสมัครผู้ประกอบการมากขึ้น เพื่อเข้าร่วมโปรแกรมให้คำปรึกษาการใช้ประโยชน์จากข้อมูลสำหรับผู้ประกอบการ SMEs แบบเจาะลึก ผ่าน 4 กิจกรรมหลัก คือ บรรยากาศในงาน OPEN HOUSE ยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล มาร่วมแชร์ประสบการณ์ ไอเดียการบริหารงานกันอย่างเข้มข้น เริ่มต้นด้วยนายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา CEO & CO-FOUNDER บริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด, ดร.วินน์ วรวุฒิคุณชัย CEO บริษัท ไอบอทน้อย จำกัด และผู้ประกอบการ SMEs 3 บริษัท ที่เข้าร่วมโครงการจากปีที่แล้ว ปิดท้ายด้วยนางสาวสุภาวดี ตันติยานนท์ นายกสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย ร่วมบรรยายในหัวข้อ “Driving Business Growth with Data ขับเคลื่อนการเติบโตด้วยพลังของข้อมูล” นอกจากนี้ ภายในงานผู้ประกอบการยังให้ความสนใจแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านท่องเที่ยวแห่งชาติ National Tourism Intelligent Data Platform หรือ Travel Link อีก 1 โครงการหลักของ BDI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ที่ช่วยสนับสนุนข้อมูลให้กับผู้ประกอบการกำหนดกลยุทธ์ ดำเนินธุรกิจอย่างมีทิศทาง สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ “The UP 2025: Unlock Potential with Data — Scaling up Business Program” สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครฟรี! ได้ที่: www.bdi.or.th/theup2025    เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ – 14 พฤษภาคม 2568 เริ่มให้คำปรึกษาและพัฒนาแผนกลยุทธ์รายกิจการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2568
23 April 2025

บทความ

Power BI ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กดีขึ้นได้อย่างไร
ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ถึงความสำคัญของข้อมูลในแวดวงธุรกิจ บริษัททุกขนาดและประเภทกำลังใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาลอยู่เป็นประจำทุกวัน  พวกเขาต้องเก็บรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง นำมารวมกันและทำการวิเคราะห์โดยใช้แอปพลิเคชันเฉพาะทาง นั่นคือเหตุผลที่เครื่องมือ BI และการนำเสนอแผนภาพข้อมูลจึงกลายเป็นที่นิยมมาก เพราะมีข้อดีหลายอย่าง เช่น Software Solutions และสิ่งที่สังเกตได้ชัดคือแม้แต่หน่วยงานขนาดเล็กก็หันมาใช้เครื่องมือเหล่านี้ Power-BI เป็นหนึ่งในเครื่องมือ BI และ Data Visualization ที่ใช้กันอย่างกว้างขวางโดยธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลก ทำไมธุรกิจขนาดเล็กจึงควรใช้ Power BI? เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อการแข่งขันได้ในสถานการณ์ตลาดปัจจุบันได้ เพราะมีธุรกิจใหม่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและในเมืองใหญ่ ดังนั้นธุรกิจขนาดเล็กที่ให้บริการภูมิภาคหนึ่งจึงต้องหาข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งของพวกเขา นี่คือจุดที่ Power BI เข้ามามีบทบาทสำคัญ บริษัทเหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันของ BI Solution เพื่อเข้าใจขั้นตอนการดำเนินการต่าง ๆ และนำมาประกอบการตัดสินใจในการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญต่อธุรกิจและการเติบโตของรายได้ในระยะยาวเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นการใช้ Power BI จึงเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจขนาดเล็กดังนี้: กิจการขนาดเล็กประเภทไหนที่ได้ประโยชน์จากการใช้ Power BI? หลายคนอาจเข้าใจว่า BI และ Data Visualization มักจะใช้โดยบริษัทข้ามชาติและบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่หลายเจ้า แต่ว่าความเป็นจริงแล้ว Power BI ก็ถูกใช้งานโดยบริษัทขนาดเล็กหลายแห่งที่มีการเติบโตมากและมีแผนที่จะขยายบริษัทเช่นกัน เพราะแพลตฟอร์มดังกล่าวมีประโยชน์หลายอย่างและกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพและเจ้าของกิจการก็สามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มได้ ไม่สำคัญว่ากิจการขนาดเล็กของคุณอยู่ในอุตสาหกรรมไหน Power BI เป็นประโยชน์ต่อทุกหน่วยงานในทุกภาคส่วน รวมถึงไอที ร้านค้า บริการด้านการเงิน บริการด้านสุขภาพ โรงพยาบาล และอีกมากมาย ข้อได้เปรียบสำคัญของการใช้ Power BI สำหรับกิจการขนาดเล็ก และรายการด้านล่างนี้คือข้อได้เปรียบของการใช้ Power BI สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก: คุณควรจ้างนักวิเคราะห์หรือผู้ให้คำปรึกษาเรื่อง Power BI สำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณไหม? โดยปกติแล้ว ธุรกิจขนาดเล็กที่ใช้ Power BI เวอร์ชันเดสก์ท็อปแบบฟรีไม่จำเป็นต้องจ้างนักวิเคราะห์หรือหน่วยงาน BI แต่อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรมีกฎตายตัว  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณ แผนการเติบโตธุรกิจ และสถานการณ์ของธุรกิจ การใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Power BI อาจมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ทว่าคุณควรรอบคอบในการจ้างนักวิเคราะห์และบริการจากผู้เชี่ยวชาญ ควรเปรียบเทียบบริการของแต่ละเจ้าก่อนเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท บทความโดย ImensoSoftwareเนื้อหาจากบทความของ Data Science Centralแปลและเรียบเรียงโดย ไอสวรรค์ ไชยชะนะตรวจทานและปรับปรุงโดย อิสระพงศ์ เอกสินชล
14 November 2022

บทความ

ฟื้นธุรกิจหลัง COVID-19 ด้วย Data Driven Approach
Covid-19 ทำให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก SMEs ต้องปรับตัว ด้วยการใช้ข้อมูล ปรับสินค้าและบริการ รู้จักลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินภายในองค์กร
3 June 2020
PDPA Icon

We use cookies to optimize your browsing experience and improve our website’s performance. Learn more at our Privacy Policy and adjust your cookie settings at Settings

Privacy Preferences

You can choose your cookie settings by turning on/off each type of cookie as needed, except for necessary cookies.

Accept all
Manage Consent Preferences
  • Strictly Necessary Cookies
    Always Active

    This type of cookie is essential for providing services on the website of the Personal Data Protection Committee Office, allowing you to access various parts of the site. It also helps remember information you have previously provided through the website. Disabling this type of cookie will result in your inability to use key services of the Personal Data Protection Committee Office that require cookies to function.
    Cookies Details

  • Performance Cookies

    This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

  • Functional Cookies

    This type of cookie enables the Big Data Institute (Public Organization)’s website to remember the choices you have made and deliver enhanced features and content tailored to your usage. For example, it can remember your username or changes you have made to font sizes or other customizable settings on the page. Disabling these cookies may result in the website not functioning properly.

  • Targeting Cookies

    "This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

Save settings