Page 12

News

เปิดเบื้องหลังแดชบอร์ด Rice Supply พยากรณ์ผลผลิตข้าวล่วงหน้า แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ
ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน จะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ซึ่งจะมีผลผลิตข้าวปริมาณมากออกสู่ตลาดพร้อมกัน และอาจส่งผลต่อเสถียรภาพราคาข้าว นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่าง สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กับ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) โดย ดร.อิสระพงศ์ เอกสินชล ผู้จัดการโครงการและนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลอาวุโส BDI ได้รับมอบหมายภารกิจในการวิเคราะห์ว่า พื้นที่อำเภอไหน จังหวัดใดมีแนวโน้มที่ผลผลิตข้าวจะออกมาล้นตลาด เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเตรียมมาตรการรองรับได้อย่างเหมาะสม การลงรายละเอียดในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้สามารถออกนโยบายช่วยเหลือชาวนาได้อย่างแม่นยำ จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของภารกิจนี้ โดยภายใน 2 วันหลังจากได้รับโจทย์ ดร.อิสระพงศ์ ได้เขียนโปรแกรมประมวลผลข้อมูล และพัฒนาแดชบอร์ดแสดงผลคาดการณ์ผลผลิตข้าวจากภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อแสดงสถานการณ์ผลผลิตข้าวรายพื้นที่ในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ปริมาณผลผลิตเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอในเชิงนโยบาย ทำอย่างไรถึงจะจำแนกชนิดพันธุ์ข้าวที่เพาะปลูก เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว และข้าวเหนียว ในแต่ละพื้นที่ได้ ? เพราะมีความสำคัญต่อการบริหารจัดการการตลาด ทีมงานจึงมีการบูรณาการข้อมูลการขึ้นทะเบียนปลูกข้าวของเกษตรกร จากกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาวิเคราะห์ร่วมกันกับข้อมูลของ GISTDA ทำให้สามารถจำแนกชนิดพันธุ์ข้าวในแต่ละพื้นที่ในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ กำลังการผลิตของโรงสีในพื้นที่ ซึ่งบ่งชี้ถึงความสามารถในการรองรับปริมาณผลผลิตข้าวในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกัน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการประเมินสถานการณ์ปริมาณข้าวล้นตลาดด้วยเช่นกัน จึงได้มีการนำข้อมูลนี้จากกรมการค้าภายใน มาวิเคราะห์เพื่อประเมินศักยภาพการรองรับผลผลิต และความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะผลผลิตล้นตลาด ในแต่ละพื้นที่ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ คือ “ระบบคาดการณ์ผลผลิตข้าวนาปีล่วงหน้า” ที่เกิดขึ้นจากการบูรณาการข้อมูลจากหลายหน่วยงานภาครัฐเข้าด้วยกัน ซึ่งสามารถส่งต่อให้สำนักงานพาณิชย์ในแต่ละจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้เป็นข้อมูลประกอบการติดตามสถานการณ์ และพิจารณามาตรการด้านการตลาดข้าวได้อย่างตรงจุด เกิดประสิทธิผลเชิงนโยบาย สอดคล้องกับสถานการณ์จริงตามบริบทของแต่ละพื้นที่ โดยในระยะต่อไป มีแผนต่อยอดการพัฒนาระบบคาดการณ์ผลผลิตไปสู่พืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และอ้อย เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการสินค้าเกษตรในภาพรวม เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร และรายได้ของพี่น้องเกษตรกรให้มีความมั่นคง เบื้องหลังแดชบอร์ด จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของเทคโนโลยี แต่คือความเชี่ยวชาญในการทำงานของบุคลากรเฉพาะด้าน ที่มาร่วมมือกันและนำข้อมูลจากหลายแหล่งมาประมวลผลอย่างเป็นระบบ เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายบนฐานข้อมูลที่รอบด้าน “นี่คือ อีกหนึ่งภารกิจของ BDI ในการสนับสนุนการใช้ข้อมูลเพื่อการกำหนดนโยบาย ภายใต้แนวคิด Data-Driven Nation”
15 December 2025
BDI ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดพิธีบำเพ็ญกุศล ในวาระครบ 50 วัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
12 ธันวาคม 2568, กรุงเทพมหานคร – กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) โดย สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดพิธีบำเพ็ญกุศลและแสดงความอาลัย ในวาระครบ 50 วัน (ปัญญาสมวาร) แห่งการสวรรคต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมี นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธาน และมี นายพชร อนันตศิลป์ ปลัดกระทรวง ศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร BDI ตลอดจนข้าราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงดีอี ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงบริเวณอาคารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (อาคารซี) ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่
12 December 2025
BDI เผยวิสัยทัศน์สถาบันข้อมูลและ AI ของประเทศ เดินหน้าหนุนภาครัฐและเอกชน ด้วยเทคโนโลยี มุ่งขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่ออนาคตไทย
11 ธันวาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เผย ทิศทางการขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์  เดินหน้าแผนงานปี 2569 ผ่านแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลระดับชาติ (D2) และโครงการปัญญาประดิษฐ์ภาษาไทย ThaiLLM พร้อมยกระดับภาครัฐ-เอกชน ด้วยข้อมูลที่เชื่อมโยง รองรับการวิเคราะห์ที่แม่นยำ และตอบสนองสถานการณ์วิกฤตได้ทันท่วงที ตลอดจนผลักดันนวัตกรรม AI และการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม สะท้อนบทบาทของ BDI ในฐานะองค์กรกลางที่เสริมพลังภาครัฐและขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนการใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ของประเทศ BDI มีภารกิจสำคัญในการวางโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลระดับชาติ เพื่อสนับสนุนการทำงานของภาครัฐให้มีความทันสมัย เชื่อมโยง และตอบสนองความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัล การขับเคลื่อนดังกล่าว จึงมุ่งพัฒนาระบบกลางที่ช่วยให้ข้อมูลจากหลายหน่วยงานสามารถเชื่อมโยง แลกเปลี่ยน และนำไปใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการวางแผนนโยบาย ยกระดับบริการสาธารณะและสร้างนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและ AI ภายใต้แนวคิดนี้ BDI ได้ออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มการเชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (ดีทู) หรือ Data Integration and Intelligence Platform (D2) ซึ่งเป็นพื้นที่กลางสำหรับการเชื่อมโยงและแบ่งปันข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และพันธมิตร โดยข้อมูลที่เชื่อมโยงสามารถนำไปใช้ประโยชน์จริง ทั้งในการพัฒนานโยบายแบบมุ่งเป้า การบริหารจัดการ และการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยข้อมูลและ AI อันเป็นหัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่ แพลตฟอร์มนี้ยังสนับสนุนให้เกิดการใช้ข้อมูลร่วมกันอย่างเป็นระบบมีมาตรฐาน พร้อมยกระดับความสามารถด้านการวิเคราะห์และการตัดสินใจของภาครัฐ โดยมีแผนดำเนินงานตามลำดับ ได้แก่ การออกแบบมาตรฐานการเชื่อมโยงข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานในปี 2568 การเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2569 และการต่อขยายบริการด้านปัญญาประดิษฐ์ในปี 2570 ส่วนด้านการเสริมขีดความสามารถของประเทศในการรับมือกับสถานการณ์วิกฤต BDI ชูแนวคิด “Digital Wall of Resilience” ในการพัฒนากรอบสถาปัตยกรรมข้อมูลและระบบบูรณาการข้อมูลระดับชาติ เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ การเตรียมพร้อมรับมือ และการบริหารจัดการภาวะวิกฤตภายใต้หลักธรรมาภิบาลข้อมูลที่เคร่งครัด ทั้งด้านความมั่นคงปลอดภัยและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ถือเป็นการเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ประเทศสามารถเผชิญภัยคุกคามข้ามพรมแดนในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นภัยความมั่นคง ภัยธรรมชาติ ภัยเศรษฐกิจ หรือสงครามการค้า โดยใช้องค์ความรู้ด้านข้อมูลเป็นฐานสำคัญในการคาดการณ์ ติดตาม และตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที ศ. ดร.ธีรณี กล่าวเพิ่มเติมถึงความก้าวหน้าของโครงการ ThaiLLM ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์ภาษาไทยแบบ Open Source / Open License โดยล่าสุดได้เผยแพร่โมเดลพื้นฐานขนาด8B พารามิเตอร์ และโมเดลขนาด 30B พารามิเตอร์ ที่อัปโหลดเพิ่มเติมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนโมเดลขนาดใหญ่ที่สุดจะเปิดให้สาธารณะเข้าถึงภายในเดือนมกราคม 2569 โมเดลเหล่านี้ได้รับการฝึกด้วยข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุนการพัฒนา นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับระบบนิเวศ AI ภาษาไทย ให้สามารถนำไปต่อยอดใช้งานในหลากหลายสาขา ขณะนี้มีหลายทีมเริ่มทดลองใช้งาน และคาดว่าจะเห็นผลลัพธ์รูปธรรมในเร็ว ๆ นี้ โดยจุดเริ่มต้นแรกของพัฒนาที่สำคัญ คือ โมเดลเฉพาะทางด้านการแพทย์สำหรับงานคัดกรองอาการ (Medical Screening) ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2569 พัฒนาโดยทีม ThaiLLM ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและโรงพยาบาลภาครัฐ โมเดลดังกล่าวถูกออกแบบเพื่อประเมินคัดกรองเบื้องต้น ให้คำแนะนำการดูแลตนเอง และแนะนำการพบแพทย์อย่างเหมาะสม โดยยืนยันว่าไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการวินิจฉัยโรค ทั้งนี้ Chatbot รุ่นต้นแบบที่ใช้โมเดลนี้คาดว่าจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 2569 ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงแหล่งคัดกรองด้วยข้อมูลสุขภาพที่เชื่อถือได้ และแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์ในขั้นต้น “นอกจากนี้ BDI ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะองค์กรหลักในการพัฒนาศักยภาพกำลังคนด้าน Big Data และ AI ยังเตรียมมอบของขวัญปีใหม่ 2569 ผ่านหลักสูตรออนไลน์ด้านปัญญาประดิษฐ์ในรูปแบบวิดีโอการสอนจำนวน 3 หลักสูตร ช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำ AI ไปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การเรียน และการสร้างเนื้อหา พร้อมต่อยอดเป็นทักษะใหม่เพื่อการประกอบอาชีพ หลักสูตรทั้งหมดจะเปิดให้เรียนฟรี ถือเป็นการยกระดับทักษะดิจิทัล เพื่อการพัฒนากำลังคนของประเทศ และขยายโอกาสการเรียนรู้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน” ศ. ดร.ธีรณี กล่าวทิ้งท้าย  
11 December 2025
BDI-สสช. เดินหน้าบูรณาการข้อมูลช่วยเหลือประชาชนวางระบบมาตรฐานการจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราวทั่วประเทศ
9 – 10 ธันวาคม, บุรีรัมย์ – นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้มอบหมายให้สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) และสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI บูรณาการข้อมูลร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชนในพื้นที่ เพื่อเร่งนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาระบบลงทะเบียนผู้พักพิง การจัดการสิ่งของ และการกระจายสิ่งของช่วยเหลือไปยังศูนย์พักพิงต่าง ๆ รวมถึงกระบวนการให้ความช่วยเหลือและเยียวยา แทนระบบแบบ Manual ที่ใช้ในปัจจุบัน จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เพื่อรับฟังสถานการณ์ล่าสุดและติดตามแนวทางการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ภายหลังการลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ คณะผู้บริหารจาก BDI นำโดย ศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันฯ พร้อมด้วย ดร.ปฐมพร ศิรประภาศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านบูรณาการข้อมูล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ขยายการติดตามสถานการณ์ไปยังอีก 3 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี โดยได้พบปะหารือร่วมกับหน่วยงานระดับอำเภอและจังหวัด โรงพยาบาล และศูนย์พักพิงต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อรวบรวมข้อมูลการบริหารจัดการในแต่ละด้าน อาทิ การลงทะเบียนผู้อพยพในศูนย์พักพิง การเชื่อมโยงข้อมูลทางการแพทย์และสาธารณสุข การบริหารจัดการสิ่งของอุปโภคบริโภค รวมถึงการติดตามการกระจายความช่วยเหลือ จากข้อมูลที่ได้รวบรวมจากการลงพื้นที่ทั้ง 4 จังหวัด BDI จะนำมาพัฒนาเป็นระบบการจัดการสถานการณ์วิกฤตและแนวทางการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราวอย่างเป็นระบบ และการใช้ข้อมูลสนับสนุนการวางแผนช่วยเหลือประชาชนในระยะกลางและระยะยาว การดำเนินงานดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ลดความซ้ำซ้อนของกระบวนการ และยกระดับความถูกต้องและความรวดเร็วในการตัดสินใจ โดย BDI จะพัฒนาระบบดังกล่าวให้อยู่ในรูปของชุดข้อมูลมาตรฐาน กระบวนการทำงาน และแนวทางการใช้เทคโนโลยีที่ชัดเจน ก่อนนำเสนอข้อมูลต่อกระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อผลักดันให้เกิดระบบที่มีมาตรฐานเดียวกันและสามารถนำไปใช้ได้ทั่วประเทศ
10 December 2025
BDI เปิดบ้านต้อนรับคณะ อพท. ศึกษาดูงาน พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองในการขับเคลื่อนองค์กรด้วย Big Data & AI สู่การพัฒนาท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
9 ธันวาคม 2568, กรุงเทพมหานคร – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย ดร.สุนทรีย์ ส่งเสริม รองผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ กล่าวแนะนำบทบาทของสถาบันฯ พร้อมด้วยนายสุธี อุไรวิชัยกุล รองผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ ร่วมต้อนรับคณะองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. นำโดย นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร ผู้อำนวยการ อพท. เนื่องในโอกาสเข้าศึกษาดูงาน จัดโดยเจ้าหน้าที่โครงการ TRAVEL LINK ณ ห้องประชุม อาคารสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ ซอยลาดพร้าว 12 ดร.ภิรมย์มาส เตชิตณัฏฐ์ศรุต ผู้จัดการโครงการและนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล กล่าวบรรยายเกี่ยวกับแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านท่องเที่ยวแห่งชาติ (TRAVEL LINK) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงข้อมูลจากทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมให้บริการในรูปแบบของแดชบอร์ดและอินโฟกราฟิก เพื่อให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก (Big Data) ได้ง่ายขึ้น เช่น จำนวนและการกระจายตัวของผู้โดยสารชาวต่างชาติจากด่านขาเข้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งประโยชน์จากการนำข้อมูลการเคลื่อนตัวจากสัญญาณโทรศัพท์มาวิเคราะห์เชิงลึกไปในพื้นที่และบริเวณที่สนใจได้ละเอียด ทั้งนี้เพื่อนำไปวิเคราะห์นโยบายหรือวางแผนกลยุทธ์การตลาด และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ โดยใช้งานได้ฟรีผ่านเว็บไซต์ www.travellink.go.th การเข้าศึกษาดูงานในครั้งนี้เนื่องจาก อพท. มีบทบาทหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการประสาน ส่งเสริม สนับสนุน ให้มีการบริหารและพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในเชิงบูรณาการ ตลอดจนพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้และกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น โดยปัจจุบัน อพท. มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล หรือ Data Driven เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กร ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของ BDI ที่มุ่งส่งเสริมนวัตกรรมด้วยการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อการขับเคลื่อนประเทศ สร้างคุณค่าทางสังคม และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ภายใต้วิสัยทัศน์ Data – Driven Nation
9 December 2025
BDI เข้าร่วมทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้ และลงนามถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
8 ธันวาคม 2568, กรุงเทพฯ – นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมด้วย นายพชร อนันตศิลป์ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ ดร.สุนทรีย์ ส่งเสริม รองผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงดีอี ร่วมทูลเกล้าถวายแจกันดอกไม้และลงนามถวายพระพรชัยมงคลเบื้องหน้าพระรูป สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ วังศุโขทัย
8 December 2025
BDI ร่วมพิธีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2568
4 ธันวาคม 2568, นนทบุรี – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI นำโดย ศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ BDI เข้าร่วมโครงการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2568 ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ สถาบันวิชาการ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
4 December 2025
ครั้งแรก! BDI ระดมความเห็น SMEs เข้มข้น สู่การขับเคลื่อนหลักเกณฑ์การให้ทุนสนับสนุน เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมด้านข้อมูลขนาดใหญ่
4 ธันวาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย ดร.สุนทรีย์ ส่งเสริม รองผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ กล่าวเปิดกิจกรรมเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ต่อรูปแบบการสนับสนุนทุน แก่ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีข้อมูล พร้อมด้วย ดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและประสานเครือข่าย นำเสนอ (ร่าง) รูปแบบการสนับสนุนทุนผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีข้อมูล โดยมีผู้ประกอบการ SMEs มากกว่า 40 ราย เข้าร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมเดอะควอเตอร์ ลาดพร้าว บาย ยูเฮชจี กิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและประสานเครือข่าย BDI เพื่อระดมความคิดเห็นต่อ (ร่าง) หลักเกณฑ์การให้ทุนสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านข้อมูลขนาดใหญ่ โดยเปิดโอกาสให้ SMEs แสดงความคิดเห็นใน 5 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย 1.การสนับสนุนให้ทุนแก่ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีข้อมูล 2.(ร่าง) รูปแบบการสนับสนุน 3.หมวดค่าใช้จ่ายที่ให้การสนับสนุน 4.ผู้มีสิทธิขอรับทุน และ 5.การเบิกจ่ายเงินสนับสนุน ซึ่งผู้ประกอบการต่างระดมความเห็นพร้อมข้อเสนอแนะกันอย่างเข้มข้น
4 December 2025
BDI ผนึก CAAT เดินหน้าพัฒนาระบบข้อมูลกลางด้านการบินของประเทศ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินด้วยข้อมูล ผ่านแพลตฟอร์ม TRAVEL LINK
2 ธันวาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย ศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ พร้อมด้วย พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) “โครงการบูรณาการและวิเคราะห์ข้อมูลด้านการขนส่งทางอากาศ” เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลกลางด้านการบินของประเทศไทยให้มีความทันสมัย โปร่งใส และใช้ประโยชน์ได้จริงในทุกมิติ โดยมีนายสุธี อุไรวิชัยกุล รองผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ และนายศรัณย เบ็ญจนิรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาเศรษฐกิจการบิน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีดังกล่าว ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น ศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ กล่าวว่า ด้วยภารกิจของทาง BDI ในฐานะที่เป็นองค์กรหลักในการส่งเสริมนวัตกรรมในการประยุกต์ใช้ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อการขับเคลื่อนประเทศ ความร่วมมือในครั้งนี้กับทาง CAAT เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอย่างเป็นระบบ มุ่งยกระดับการใช้ข้อมูลเพื่อสนับสนุนงานด้านนโยบายและการพัฒนาประเทศในหลายมิติ มีเป้าหมายสำคัญในการเก็บรวบรวมและบูรณาการข้อมูลสารสนเทศด้านการขนส่งทางอากาศให้มีความรวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นระบบ พร้อมทั้งร่วมกันพัฒนาระบบบริการข้อมูลกลางและบริการสารสนเทศสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลข้อมูลด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือการแสดงผลข้อมูลผ่านแดชบอร์ดเพื่อช่วยให้หน่วยงานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด “ทั้งสองฝ่ายยังให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูล และการร่วมอภิปรายในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบข้อมูลที่มีคุณภาพ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และช่วยเสริมศักยภาพของระบบขนส่งทางอากาศของประเทศโดยรวม ความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจฉบับนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันให้ข้อมูลกลายเป็นทรัพยากรที่สร้างประโยชน์อย่างแท้จริงต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย” ศ. ดร.ธีรณี กล่าวปิดท้าย พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการ CAAT กล่าวว่า ข้อมูลเป็นทรัพยากรที่ยิ่งใช้งาน ยิ่งสร้างคุณค่า หากนำข้อมูลมาใช้อย่างถูกต้อง ถูกเวลา และถูกวิธี ข้อมูลจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ได้อย่างมหาศาล นี่คือหัวใจของ Data-Driven Economy หรือระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และวันนี้เราไม่ได้มองข้อมูลเป็นเพียงเครื่องมือทางธุรกิจ แต่ยังเป็น “โครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยและการกำกับดูแล” ของอุตสาหกรรมการบิน ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อมโยงกันจะช่วยให้ CAAT สามารถวางแผนกำกับดูแลได้แม่นยำขึ้น ตรวจพบความเสี่ยงได้เร็วขึ้น และกำหนดนโยบายด้านความปลอดภัยและการเดินอากาศได้ตรงจุด ข้อมูลคือรากฐานสำคัญของระบบการบินที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และโปร่งใส ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้โดยสาร ภาคธุรกิจ และสังคมโดยรวม “ขณะนี้ประเทศไทยมีข้อมูลด้านการบินจำนวนมาก แต่กระจัดกระจายในหลายฐานข้อมูล การรวมข้อมูลเหล่านี้ให้ได้มาตรฐานเดียวกัน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย การกำกับดูแล การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ และการคาดการณ์แนวโน้มสำคัญ เช่น การเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารจากอินเดีย ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อทั้งสายการบิน ท่าอากาศยาน หน่วยงานรัฐ และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง” พลอากาศเอก มนัท กล่าวสรุป สำหรับบันทึกข้อตกลงฉบับนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้าง “ศูนย์ข้อมูลกลางด้านการบิน” ผ่านการเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลจากหลายหน่วยงาน ทั้งสายการบิน ท่าอากาศยาน ด้วยแพลตฟอร์ม TRAVEL LINK เพื่อยกระดับการวิเคราะห์เชิงนโยบาย การบริหารจัดการห้วงอากาศ ประสิทธิภาพการให้บริการ และการวางแผนพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศในระยะยาว และการดำเนินงานทั้งหมดจะเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสารสนเทศระดับสากล พร้อมเดินหน้าขยายความร่วมมือไปยังหน่วยงานหลักในอุตสาหกรรมการบิน เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) รวมถึงสายการบินของไทย เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลระดับประเทศที่มีคุณภาพและยั่งยืน
2 December 2025
PDPA Icon

We use cookies to optimize your browsing experience and improve our website’s performance. Learn more at our Privacy Policy and adjust your cookie settings at Settings

Privacy Preferences

You can choose your cookie settings by turning on/off each type of cookie as needed, except for necessary cookies.

Accept all
Manage Consent Preferences
  • Strictly Necessary Cookies
    Always Active

    This type of cookie is essential for providing services on the website of the Personal Data Protection Committee Office, allowing you to access various parts of the site. It also helps remember information you have previously provided through the website. Disabling this type of cookie will result in your inability to use key services of the Personal Data Protection Committee Office that require cookies to function.
    Cookies Details

  • Performance Cookies

    This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

  • Functional Cookies

    This type of cookie enables the Big Data Institute (Public Organization)’s website to remember the choices you have made and deliver enhanced features and content tailored to your usage. For example, it can remember your username or changes you have made to font sizes or other customizable settings on the page. Disabling these cookies may result in the website not functioning properly.

  • Targeting Cookies

    "This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

Save settings