News
ข่าวประชาสัมพันธ์
BDI News
ชาว BDI จิตอาสาร่วมจัดกิจกรรม Agile Thailand ตอกย้ำ Core Value ขององค์กร
5 กรกฎาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI นำโดย นางสาวเกศพร สุคตะ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล พร้อมด้วยดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและประสานเครือข่าย และเจ้าหน้าที่ BDI จิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรม Agile Thailand 2025 ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Agile Awakening ชวนมาตื่นรู้เล่าสู่กันฟัง ณ อาคาร K+ สามย่าน เขตปทุมวัน โดยชาว BDI ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอาสาสมัครจัดงาน Agile Thailand 2025 เพื่อตอกย้ำค่านิยม (Core Value) ขององค์กร คือ AGILE เช่นกัน นอกจากนี้ BDI ยังชวนผู้เข้าร่วมงานมาตื่นรู้กับหัวข้อ “Agile & Tech” ในภาครัฐ เพื่อเปิดมุมมองแลกเปลี่ยนความคิด ปลุกใจเราให้ตื่นรู้ มีสติดำเนินชีวิตอย่างมั่นคง สำหรับ Core Value ของ BDI ประกอบด้วยA : Agility -> ยืดหยุ่นพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงG : Goal Oriented -> ทำงานเป็นทีมเพื่อให้ได้ เป้าหมายร่วมขององค์กรI : Integrity -> ทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอL : Lifelong Learning -> เรียนรู้และสร้างสรรค์ ตลอดเวลาE : Excellence -> มุ่งเน้นงานคุณภาพ และการส่งมอบ ในกรอบเวลาที่เหมาะสม
5 July 2025
BDI MOU NIA ผนึกกำลังหนุนศักยภาพผู้ประกอบการด้วย BigData & AI เพื่อการขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูล ภายในงาน SITE 2025
4 กรกฎาคม 2568, กรุงเทพฯ – รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) มอบหมาย นพ.ธนกฤต จินตวร รองผู้อำนวยการสถาบันฯ ด้านกิจการพิเศษ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการด้วยเทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ กับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โดย ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ให้เกียรติลงนาม โดยมี ดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและประสานเครือข่าย BDI และ ดร.สุรอรรถ ศุภจัตุรัส รองผู้อำนวยการด้านการเงินนวัตกรรม NIA ร่วมเป็นสักขีพยาน ภายในงาน Startup x Innovation Thailand Expo 2025 (SITE 2025) จัดโดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน นพ.ธนกฤต กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ถือเป็น “จุดเริ่มต้นของความร่วมมือ” ในการวางรากฐานโครงสร้างข้อมูลของประเทศ ให้มีมาตรฐาน และสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่และปัญญาประดิษฐ์ พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างมีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล และพัฒนาองค์ความรู้เสริมศักยภาพบุคลากรด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนขยายเครือข่ายระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ สู่การพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล รวมถึงดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ส่งเสริมอย่างเหมาะสมในบริบทของการพัฒนานวัตกรรม ภายใต้ภารกิจของ BDI ที่มุ่งส่งเสริมนวัตกรรมด้วยการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อการขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูล (Data – Driven Nation) สำหรับการดำเนินงานของทั้ง 2 หน่วยงาน จะขับเคลื่อนใน 4 เรื่องหลัก คือ 1. การส่งเสริมการเข้าถึงและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ 2. การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่ได้มาตรฐานระดับสากล 3. การพัฒนาองค์ความรู้และบุคลากรผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเสริมศักยภาพและยกระดับทักษะบุคลากรในภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และ 4. การสร้างความร่วมมือแบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และสนับสนุนกิจกรรมที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศต่อไป
4 July 2025
Travel Link โชว์ศักยภาพแพลตฟอร์มในงาน Travel & Tech Asia 2025 พร้อมออกบูทสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวระดับนานาชาติ
3 กรกฎาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย ดร.อัญชลิสา แต้ตระกูล (รักษาการ) ผู้อำนวยการโครงการ Travel Link ขึ้นบรรยายหัวข้อ From Data to Decisions: How Travel Link Guides the Tourism Industry ภายในงาน Travel & Tech Asia 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 3 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ดร.อัญชลิสา กล่าวถึงโครงการแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านท่องเที่ยวแห่งชาติ หรือ Travel Link ว่า เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญ ที่จะช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยว ได้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค พร้อมกับคาดการณ์ฤดูกาลท่องเที่ยวทั้งช่วงไฮซีซันและโลว์ซีซัน รวมถึงการวางแผนขยายบริการ หรือสื่อสารการตลาดไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพใหม่ ๆ ด้วยข้อมูลที่ถูกถ่ายทอดผ่านฟีเจอร์สำคัญซึ่งออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ ผ่าน https://www.travellink.go.th/ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่โครงการ Travel Link ได้ร่วมจัดแสดงนิทรรศการภายในงานเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับโครงการให้กับผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัส 4 ไฮไลท์ของแพลตฟอร์ม ประกอบด้วย 1. สถิติจำนวนชาวต่างชาติขาเข้ารายเดือน 2. การเปรียบเทียบจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้ 3. ภาพรวมผู้เยี่ยมเยือนรายภาคและรายจังหวัด และ 4. การวิเคราะห์รีวิวจาก TripAdvisor เชิงลึก นำความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวจากแพลตฟอร์มชั้นนำมาวิเคราะห์ทั้งเชิงเนื้อหาและอารมณ์ (Sentiment Analysis) สำหรับงาน Travel & Tech Asia 2025 คือ งานจัดแสดงนวัตกรรมและการประชุมระดับ B2B แห่งแรกของเอเชียที่ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และสนับสนุนการจัดแสดงนิทรรศการด้านเทคโนโลยีบริการ ซึ่งจะช่วยยกระดับศักยภาพการดำเนินธุรกิจและการให้บริการของผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยว โดยภายในงานมีการจัดแสดงนวัตกรรมจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ และองค์กรท่องเที่ยวจากทั่วภูมิภาคเอเชียรวมไว้ในงานนี้ ซึ่งจัดโดย บริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ได้รับการสนับสนุนจากท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับพันธมิตรจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน งานดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น จุดหมายปลายทางอัจฉริยะ (Smart Tourism Destination) เปิดประตูสู่การจับคู่ธุรกิจ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการสร้างเครือข่ายระดับนานาชาติ ที่จะนำพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสู่ยุคใหม่อย่างยั่งยืน
3 July 2025
BDI เปิดเวทีระดมความเห็นแลกเปลี่ยนมุมมองผู้ใช้ข้อมูล ผ่าน Focus Group ครั้งที่ 2 กำหนดกลยุทธ์ขับเคลื่อนการใช้ Big Data & AI ยกระดับขีดความสามารถทุกภาคส่วน
2 กรกฎาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ และศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดกิจกรรม Focus Group ครั้งที่ 2 เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อ “(ร่าง) แผนกลยุทธ์ที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดด้านข้อมูลขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้กับผู้ประกอบการในประเทศไทย โดยมี ดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและประสานเครือข่าย เข้าร่วมรับฟังข้อเสนอแนะจากกลุ่มเป้าหมายหลากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมเกือบ 100 องค์กร ณ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และออนไลน์ กิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการระดมความคิดเห็นต่อยอดมาจากครั้งแรกที่จัดขึ้นในหัวข้อ “ความคาดหวังและอุปสรรคในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และเทคโนโลยี AI” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการจัดทำแผนกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนตลาดด้านข้อมูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ สำหรับโครงการดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อมุ่งเน้นกลุ่มผู้ใช้ข้อมูล เป็นศูนย์กลางของการออกแบบนโยบายและกลไกสนับสนุนที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในแต่ละภาคส่วนโดยมุ่งเน้นการสอบถามถึงพฤติกรรมการใช้ข้อมูล ประเภทของข้อมูลที่ต้องการ อุปสรรคในการเข้าถึง และความคาดหวังต่อบริการข้อมูลของภาครัฐ
2 July 2025
BDI ร่วมบันทึกเทปถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568
1 กรกฎาคม 2568, กรุงเทพฯ – นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงดีอี และ นพ.ธนกฤต จินตวร ผู้บริหารกิจการพิเศษ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ร่วมบันทึกเทปถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรุงเทพมหานคร
1 July 2025
BDI MOU GSB ผนึกกำลังส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ วิเคราะห์ครอบคลุมทุกมิติ สู่การกำหนดนโยบาย ขับเคลื่อนองค์กรและสังคมไทยอย่างยั่งยืน
1 กรกฎาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดยนายสุธี อุไรวิชัยกุล รองผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ พร้อมด้วยนายมานะ ทรวงทองหลาง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน (GSB) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้าน Data Platform ในการพัฒนาศักยภาพด้านการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนในการบริหารจัดการข้อมูลในหน่วยงานภาครัฐและช่วยขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลของประเทศให้เกิดผลจริง โดยมีนางวรพิชญา ระเบียบโลก ผู้อำนวยการฝ่ายบริการวิเคราะห์ข้อมูล BDI และนางพัชรี ชาภิมล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารข้อมูลสารสนเทศ GSB ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ เขตพญาไท นายสุธี กล่าวว่า BDI เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจในการพัฒนาบุคลากรภาครัฐในการใช้งานข้อมูลขนาดใหญ่ รวมถึงการให้คำปรึกษาและการสร้างความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันธนาคารออมสิน เป็นองค์กรที่มุ่งมั่นเป็นผู้นำในการส่งเสริมการออม และสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับประชาชน ผ่านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ความร่วมมือในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในด้านการบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ในองค์กร ด้านการพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และด้านการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการใช้งานข้อมูลในอนาคต โดยความร่วมมือที่ดำเนินการจะครอบคลุม 3 ด้านหลัก คือ 1. การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ เพื่อร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลและการให้คำปรึกษาในการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ 2. การพัฒนาทักษะของบุคลากร ในการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ผ่านการฝึกอบรมที่เป็นลักษณะแบบ Hands on Training และ 3. การวิเคราะห์และจัดทำโครงสร้างพื้นฐานของแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูล ที่สามารถรองรับความต้องการของธนาคารออมสินและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินงานที่เกิดขึ้น จึงไม่เพียงแต่เสริมสร้างศักยภาพทางด้านเทคโนโลยี แต่ยังเป็นการผลักดันให้เกิดองค์กรที่พร้อมขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Organization) โดยการพัฒนากระบวนการและการใช้เทคโนโลยีอย่างครบวงจร และยังเป็นการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมในภาครัฐและธนาคารออมสินโดยเฉพาะในด้านการใช้ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์และพยากรณ์ ที่จะช่วยให้การตัดสินใจและการให้บริการต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างสูงสุด “ด้วยความเชี่ยวชาญของ BDI ในการให้คำปรึกษาด้าน Big Data และเทคโนโลยีข้อมูลขั้นสูง ผสานกับศักยภาพและประสบการณ์ของธนาคารออมสินในการดำเนินงาน ที่ให้ความสำคัญกับการเป็นธนาคารเพื่อสังคม (Social Bank) ที่มุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในสังคม และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในด้านต่าง ๆ จะทำให้ความร่วมมือครั้งนี้นำไปสู่การส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ ทั้งในเชิงเทคนิคและเชิงนโยบาย เพื่อพัฒนาองค์กรและสังคมไทยอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต” รองผู้อำนวยการ BDI กล่าวทิ้งท้าย
1 July 2025
BDI ร่วมแชร์มุมมองในงาน AWS AI Day Thailand 2025 เพื่อขับเคลื่อน AI Ecosystem ตามแผนยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ
1 กรกฎาคม 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดย ดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและประสานเครือข่าย เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ Building Thailand’s AI Foundation: From National Foundation Models to Inclusive Innovation ในงาน AWS AI Day Thailand 2025 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ดร.อภิวดี กล่าวว่า การลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มีองค์ประกอบหลากหลาย ทั้งเชิงทักษะ และโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงธรรมาภิบาลในการพัฒนาและใช้งาน AI ภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความพร้อม Readiness ที่ประกอบไปด้วย AI Taskforce, Infrastructure และ AI Governance ในขณะเดียวกันก็ต้องสร้าง Use Cases ให้เกิดการ Adoption ใช้งานจริงได้ทันท่วงที พร้อมยกตัวอย่าง โครงการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) สำหรับภาษาไทย (ThaiLLM) ซึ่งเป็นโครงการแรกของ BDI ในการพัฒนา Open Source AI Infrastructure รวมไปถึง National Data Bank เพื่อคนไทย ที่จะช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการไทยทุกระดับ สามารถมีจุดตั้งต้นที่จะนำไปต่อยอดพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ จนสร้าง Sovereign AI สามารถก้าวกระโดดเท่าทันเทคโนโลยีระดับโลก “นอกจากนี้ในส่วนฝั่ง Adoption ที่ภาครัฐมุ่งเน้นให้เกิดการประยุกต์ใช้เป็นอันดับแรกเพื่อสร้างผลกระทบในวงกว้างจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ Public Service, Healthcare, Educational Technology, Tourism และอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งเราต้องปรับตัวใช้งานเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างกลไกสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ของประเทศไทย (Thai AI Collaboration) สู่การสร้างระบบนิเวศ AI ของประเทศ (AI Ecosystem) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันตามแผนยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ” ดร.อภิวดี กล่าวทิ้งท้าย สำหรับงาน AWS AI Day Thailand 2025 จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีสำคัญในการเปิดโอกาสร่วมแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ ซึ่งรวบรวมผู้นำและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายภาคส่วน ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของประเทศไทย สู่การสนับสนุนการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศ ซึ่งการพัฒนา AI จะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน การยกระดับบริการสาธารณะ และการสร้างประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมอย่างแท้จริง
1 July 2025
BDI ร่วมเวที East Tech West 2025 สะท้อนบทบาท AI ต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย
27 มิถุนายน 2568, กรุงเทพฯ – นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานเปิดงาน “East Tech West 2025 : Thailand Roadshow” ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 4 ของการจัดงานดังกล่าวในระดับนานาชาติ ต่อจาก ฮ่องกง ลอนดอน และดาวอส โดยถือเป็นการจัดงานครั้งแรกในประเทศไทย ณ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย ในโอกาสนี้ ศ.(พิเศษ) วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เข้าร่วมการเสวนาในหัวข้อ “From Vision to Velocity: Thailand’s Road to AI Leadership” เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการขับเคลื่อนบทบาทผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมด้วย รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ BDI เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อนี้ด้วย ผู้อำนวยการ BDI ได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์สำหรับภาษาไทย โดย ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือระดับประเทศในการพัฒนาระหว่าง BDI,ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC), หน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้าน AI และ มหาวิทยาลัย ซึ่งใช้เอกสารภาษาไทยจำนวนมหาศาลในการฝึกโมเดล AI เพื่อให้เข้าใจบริบท วัฒนธรรม และภาษาของไทยอย่างลึกซึ้ง โมเดลดังกล่าวไม่เพียงเป็นรากฐานสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI แต่ยังเปิดโอกาสให้นักพัฒนาและสตาร์ทอัพสามารถนำไปต่อยอดเป็นบริการต่าง ๆ เช่น Chatbot, Smart Search และโซลูชันด้านภาษาได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ ทั้งนี้ คาดว่าเวอร์ชันแรกของ Thai Foundation Model จะเปิดตัวได้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมหรือต้นเดือนกันยายน 2568 ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของประเทศไทยในด้าน AI อย่างแท้จริง นอกจากการพัฒนาเทคโนโลยีแล้ว ผู้อำนวยการ BDI ยังเน้นถึงบทบาทของการศึกษาทุกระดับ ในการพัฒนาทักษะด้าน AI ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง โดยอ้างอิงเป้าหมายของยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ ที่ระบุว่าควรมีประชาชนอย่างน้อย 10 ล้านคน หรือประมาณ 16.7% ของประชากรไทย ได้รับความรู้และใช้งาน AI ในส่วนนี้ BDI เสนอให้มีการบูรณาการองค์ความรู้ด้าน AI เข้ากับหลักสูตรระดับมหาวิทยาลัยสำหรับผู้เรียนทั่วไปโดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในสายวิทยาศาสตร์ และพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถปรับใช้ได้ในโรงเรียนระดับประถมและมัธยมทั่วประเทศ ในประเด็นการประยุกต์ใช้ AI กับภาคอุตสาหกรรม ผู้อำนวยการ BDI ระบุว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ของไทยเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่มีความพร้อมมากที่สุดในการนำ AI มาใช้ทันที เนื่องจากมีฐานข้อมูลที่ชัดเจนและเชื่อมโยงกัน เช่น ข้อมูลจากระบบตรวจคนเข้าเมือง ข้อมูลตำแหน่งจากโทรศัพท์มือถือ (แบบไม่ระบุตัวตน) และข้อมูลการเดินทางภายในประเทศ ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปใช้สร้างแดชบอร์ด วิเคราะห์พฤติกรรมนักท่องเที่ยว และพัฒนา Chatbot เพื่อช่วยวางแผนการเดินทางแบบ Real-Time ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ ผอ. BDI ยังชี้ถึงภารกิจสำคัญ โดยสนับสนุนขับเคลื่อนภาครัฐผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลแบบไร้กระดาษ ( Paperless Government) ที่คาดว่าจะทำให้ข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดถูกเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัลภายในปีหน้า และกำลังผลักดันกฎหมายการอำนวยความสะดวกในการแบ่งปันข้อมูลเพื่อใช้ประโยชน์เชิงวิเคราะห์ (Data Sharing Facilitation for Analytics Act)เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างถูกต้อง มีความเข้าใจในหลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเปิดโอกาสให้เกิดการใช้ AI อย่างมีธรรมาภิบาล การจัดงาน “East Tech West 2025 : Thailand Roadshow” เป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี), สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) และ CNBC สื่อเศรษฐกิจระดับโลก ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 300 คน ประกอบด้วยผู้นำด้านเทคโนโลยี นักลงทุนระหว่างประเทศ ผู้กำหนดนโยบาย และผู้บริหารจากทั้งภาครัฐและเอกชน โดยภายในการเสวนามี Mr. Jon Fortt และ Ms. Oriel Morrison ผู้ประกาศข่าวชื่อดังจาก CNBC เป็นผู้ดำเนินรายการ ทั้งนี้จากการที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้ ได้สะท้อนถึงความพร้อมและศักยภาพของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในภูมิภาค ตอกย้ำแนวทางการดำเนินนโยบายทางการทูตเชิงเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการค้า การลงทุน และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้เติบโตอย่างยั่งยืน
27 June 2025
สัปดาห์ที่ 4 BDI จัดอบรม LEAD #2 เสริมศักยภาพผู้นำยุค Big Data & AI พร้อม Workshop เชิงลึก-ลงมือทำ-เห็นผลลัพธ์ สู่เป้าหมายขององค์กร
26 มิถุนายน 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI จัดอบรมหลักสูตร LEAD: Big Data and AI for Sustainable Future รุ่นที่ 2 เดินหน้าพัฒนาศักยภาพผู้นำภาครัฐ เอกชน และธุรกิจเกิดใหม่ ผ่านองค์ความรู้ด้านข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างต่อเนื่องเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ณ โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพฯ รัชดา โดยช่วงเช้าเริ่มต้นด้วยกิจกรรม Session พิเศษ “AI Prompt & Play” ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมได้สัมผัสการใช้งานเครื่องมือ AI อย่างสร้างสรรค์ ช่วยให้สร้างงานนำเสนอที่มีทั้งเนื้อหาและรูปภาพประกอบ ภายในเวลาอันรวดเร็ว ยกระดับคุณภาพผลงานและช่วยให้การทำงานของคุณง่ายขึ้น แม้ว่าคุณจะไม่ถนัดงานสายกราฟิกก็ตามด้วยแพลตฟอร์ม Gamma.app ต่อด้วยการอบรมอย่างเป็นทางการภายใต้หัวข้อ “Leading with Data: Use Cases for Executives” โดยได้รับเกียรติจากนายวิบูลย์ ภัทรพิบูล ผู้ช่วยเลขาธิการ สายเทคโนโลยีดิจิทัล สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และดร.วันประชา เชาวลิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารข้อมูลและดาต้าอนาไลติกส์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สะท้อนให้เห็นว่า “ข้อมูล” กลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ของภาครัฐ ซึ่งนำเสนอการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบ Granular Data เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ พร้อมเปิดเผยกรณีการใช้ AI วิเคราะห์ข้อความจากโฆษณาสินเชื่อผิดกฎหมายและข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) เช่น ราคาสินค้าออนไลน์ เพื่อวัดเงินเฟ้อแบบเรียลไทม์ และการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งไม่เพียงสะท้อนวิสัยทัศน์เชิงนโยบาย แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ให้องค์กรเห็นภาพการใช้ Big Data และ AI ที่ “ทำได้จริง” ในบริบทของการกำกับดูแลและการบริหารความเสี่ยงระดับประเทศ และช่วงบ่ายเป็นหัวข้อ “Big Data in Action: Applications for Business Growth” โดย ดร.ศิษฎพงศ์ เศรษฐภัทร ที่ปรึกษาอิสระด้าน Big Data และ AI ซึ่งได้ถ่ายทอดแนวคิดว่า Big Data ในปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องของปริมาณ ความเร็ว หรือความหลากหลายของข้อมูลอีกต่อไป แต่ต้องตอบโจทย์ “Value” ที่จับต้องได้ โดยยกตัวอย่างแผนพัฒนาองค์กรด้วยข้อมูล 4 ระยะ ตั้งแต่การวางรากฐานข้อมูลที่มั่นคง การเปิดใช้งาน AI อย่างมีประสิทธิภาพ การลงมือใช้จริงในระดับธุรกิจ พร้อมชี้ให้เห็นความสำคัญของการเริ่มต้นจาก “Plus AI” คือการเรียนรู้การใช้โมเดล AI สาธารณะ หรือการสร้าง AI แบบเฉพาะขององค์กร อีกทั้งยังเน้นว่าองค์กรที่ประสบความสำเร็จต้องมีความเข้าใจทั้งมุม Data-Centric และ Model-Centric พร้อมยกกรณีศึกษาหลากหลายจากภาคการเงิน ค้าปลีก อุตสาหกรรม และสุขภาพ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า Big Data และ AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือเครื่องมือทรงพลังในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจให้เติบโตและยืดหยุ่นในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ปิดท้ายของวันอบรมด้วยหัวข้อ “Driving Change Through Digital Transformation” โดยนางสาวปาจรีย์ แสงคำ Head of Digital Technology บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) นำเสนอกรณีศึกษาการพลิกโฉมองค์กรโอสถสภาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นย้ำว่าความเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลไม่ใช่เพียงการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ แต่ต้องเชื่อมโยงกับเป้าหมายทางธุรกิจอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา “Order to Cash Innovation” ให้ครบวงจรตั้งแต่การสั่งซื้อจนถึงการจัดส่งด้วยระบบอัตโนมัติและ AI การใช้ Net Sales Intelligence วิเคราะห์ยอดขายแบบเรียลไทม์ รวมถึงการพัฒนาพนักงานให้เป็น “Digital Citizen” ที่สามารถสร้างแอปฯ ด้วยตนเองผ่านเครื่องมือ Low-Code/No-Code กว่า 500 แอปพลิเคชัน ผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนในตัวเลขรายได้ที่เติบโต พร้อมต้นทุนการบริหารที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ผู้เข้าอบรมยังได้ร่วม Workshop “Deep Dive into Data with Service Blueprint” ออกแบบกระบวนการบริการในองค์กรของตน โดยเริ่มจากระบุ Use Case ที่สำคัญ เช่น กระบวนการจัดซื้อหรือการตลาด วิเคราะห์สถานะปัจจุบัน เทียบกับเป้าหมายในอนาคต พร้อมอธิบายเหตุผลว่าทำไมจึงควรทรานส์ฟอร์ม จากนั้นสำรวจโอกาสในการนำ AI เข้ามาใช้งาน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลหรือเพิ่มความอัตโนมัติในขั้นตอนต่าง ๆ ก่อนจะวาง Action Plan ภายใน 7 วัน และประเมินอุปสรรค พร้อมแนวทางแก้ไข โดยทุกกลุ่มได้เชื่อมโยงผลลัพธ์กับเป้าหมายทางธุรกิจอย่างชัดเจน
26 June 2025