9 – 10 ตุลาคม 2568, เชียงใหม่ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เดินหน้าพัฒนา “Envi Link” แพลตฟอร์มข้อมูลสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ใช้เทคโนโลยี Big Data เชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลจากกว่า 30 หน่วยงานทั่วประเทศ รวมมากกว่า 200 ชุดข้อมูล เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อย่างเป็นระบบ พร้อมดันจังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่นำร่องต้นแบบในการขับเคลื่อน “การจัดการสิ่งแวดล้อมด้วยข้อมูล” เพื่อยกระดับคุณภาพอากาศ คุณภาพชีวิต และความยั่งยืนของเมืองในระยะยาว

นายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นพื้นที่ที่มีความท้าทายด้านมลพิษทางอากาศและฝุ่น PM2.5 ต่อเนื่องมาหลายปี การมีระบบข้อมูลที่เชื่อมโยงอย่าง Envi Link เข้ามาช่วยสนับสนุนถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เพราะทำให้จังหวัดมีข้อมูลเชิงลึกและแม่นยำมากขึ้นในการประเมินสถานการณ์ วางแผน และออกมาตรการได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะการใช้แดชบอร์ดข้อมูล เพื่อให้ผู้บริหารสามารถติดตามสถานการณ์จริงในแต่ละพื้นที่ พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มและประเมินผลการดำเนินงานจากหลักฐานในเชิงข้อมูล (data-driven decision) ได้อย่างเป็นระบบ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือระหว่างจังหวัดกับ BDI ในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการนำเทคโนโลยีข้อมูลมาช่วยแก้ปัญหาฝุ่นควัน แต่ยังเป็นต้นแบบของ “เมืองอากาศสะอาด” ที่ภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาชนจะสามารถใช้ข้อมูลเดียวกันในการติดตามสถานการณ์และร่วมกันวางแผนป้องกันปัญหาได้อย่างมีส่วนร่วม ถือเป็นการยกระดับการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงรุก ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจริงและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

ศาสตราจารย์ ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) กล่าวว่า BDI มุ่งมั่นใช้พลังของข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในทุกมิติ รวมถึงการจัดการสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นรากฐานของคุณภาพชีวิตและความยั่งยืนของประเทศ การเชื่อมโยงข้อมูลกว่า 200 ชุดผ่านแพลตฟอร์ม Envi Link ถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างระบบข้อมูลกลางที่เชื่อมโยงหน่วยงานต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทั้งภาครัฐ นักวิจัย ภาคธุรกิจ และชุมชน เพื่อให้เกิดการตัดสินใจเชิงนโยบายที่แม่นยำและตรงจุด

ผู้อำนวยการ BDI กล่าวเพิ่มเติมว่า Envi Link เป็นแพลตฟอร์มการบูรณาการข้อมูลเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยรวบรวมข้อมูลจากหลายมิติ เช่น ค่าฝุ่น จุดความร้อน พื้นที่เผาไหม้ การขอใช้ไฟในระบบ Fire-D และสถานการณ์ผู้ป่วยจากมลพิษทางอากาศ รวมถึงข้อมูลจากเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ผู้บริหารและหน่วยงานในพื้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่อัปเดตและเชื่อมโยงกันได้แบบเรียลไทม์ นำไปสู่การบริหารจัดการปัญหาได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที และได้รับการผลักดันต่อยอดให้เป็นแพลตฟอร์มฐานข้อมูลกลาง เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตามความเห็นที่ประชุมคณะทำงานพัฒนาแพลตฟอร์มฐานข้อมูลกลางเพื่อสนับสนุนมาตรการลดมลพิษทางอากาศ (ฝุ่นละออง PM2.5)
ในอนาคต BDI มีแผนร่วมมือกับกลุ่มนักวิจัยในพื้นที่ขยายผลการใช้งานแพลตฟอร์ม Envi Link ไปยัง
8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เพื่อสร้างระบบข้อมูลสิ่งแวดล้อมที่เชื่อมโยงกันในระดับภูมิภาค สนับสนุนการวางนโยบายเชิงพื้นที่ การบริหารจัดการไฟป่า และการลดปริมาณฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน

สำหรับโครงการพัฒนาระบบบัญชีข้อมูลและต้นแบบการบูรณาการข้อมูลฝุ่น PM2.5 ได้รับการสนับสนุนจากทุนวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ภายใต้การจัดการของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมีพันธมิตรหลัก ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.), สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) (สวพส.), สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (สทอภ.) และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ซึ่งต่างมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบบัญชีข้อมูลสิ่งแวดล้อม (Environmental Data Catalog) ที่สามารถรวบรวม จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างเป็นระบบและโปร่งใส เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลกลางในการกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

แพลตฟอร์ม Envi Link ยังให้บริการแดชบอร์ดข้อมูลวิเคราะห์มากกว่า 15 รูปแบบ อาทิ แดชบอร์ดตัวชี้วัดการจัดการปัญหาฝุ่นรายจังหวัด ที่รวบรวมข้อมูลจุดความร้อน พื้นที่เผาไหม้ จำนวนวันค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน และสถานการณ์ผู้ป่วยจากมลพิษทางอากาศ เพื่อใช้ติดตามผลและประเมินมาตรการของภาครัฐ แดชบอร์ดเปรียบเทียบพื้นที่ขอใช้ไฟผ่านระบบ Fire-D กับพื้นที่เผาไหม้จริง เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตใช้ไฟกับพื้นที่ที่เกิดการเผาไหม้จริงในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงแดชบอร์ดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ที่รวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น RGUARD, DustBoy, Air4Thai, DPM Alert และ Check Dust เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ได้อย่างใกล้ชิดและเข้าใจข้อมูลในเชิงพื้นที่มากขึ้น

นอกจากนั้น BDI ยังเตรียมต่อยอดการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Envi Link เพื่อสนับสนุนงานวิจัยและนโยบายในมิติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การติดตามพื้นที่เผาไหม้ตามชนิดพืชเศรษฐกิจจากภาพถ่ายดาวเทียม การแนะนำพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในการปรับเปลี่ยนพืชในพื้นที่ให้ลดการเผาและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นด้วยข้อมูลภูมิสารสนเทศ นำไปสู่นโยบายการลดเผาที่ยั่งยืน

“การดำเนินงานในจังหวัดเชียงใหม่จึงไม่เพียงเป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการข้อมูลสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของการขับเคลื่อน “Smart Environment” ภายใต้นโยบายเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ข้อมูลกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการออกแบบนโยบาย การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนอย่างยั่งยืนในทุกมิติ” ศาสตราจารย์ ดร.ธีรณี กล่าวปิดท้าย


Public Relations and Communication Specialist
Big Data Institute (Public Organization), BDI
- Narisara Boonsrihttps://bdi.or.th/author/narisara-bo/
- Narisara Boonsrihttps://bdi.or.th/author/narisara-bo/
- Narisara Boonsrihttps://bdi.or.th/author/narisara-bo/
- Narisara Boonsrihttps://bdi.or.th/author/narisara-bo/