11 กันยายน 2568, กรุงเทพฯ – สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI จัดงานสัมมนา “BDI Seminar 2025 : BIG DATA & AI MOVEMENT IN THAILAND เดินหน้าประเทศไทยด้วย Big Data และ AI อย่างเท่าทัน” ระดมผู้กำหนดนโยบาย นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ประกอบการ ร่วมแลกเปลี่ยนทิศทางการพัฒนาประเทศในยุคที่ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของชาติ ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท

ภายในงานได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “นโยบายการใช้เทคโนโลยีข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย” โดยเน้นย้ำความจำเป็นของการปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัลและ AI ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมอ้างอิงวลีจากภาพยนตร์ Star Trek “Your resistance is futile” เพื่อชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีเดินหน้าไม่รอใคร ทั้งนี้ได้สะท้อนบทบาทภาครัฐที่ต้องเร่งเครื่องจาก “อยู่ข้างหลัง” สู่การเป็นตัวเร่งของการเปลี่ยนผ่าน เพื่อลดการเติบโตแบบ “หย่อมๆ” และแก้ปัญหา “แผนแล้วจะนิ่ง”

แผนปฏิบัติและการขับเคลื่อนด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศไทย ครอบคลุมทั้งมิติการสร้างความพร้อมด้าน AI (AI Readiness) 3 ประการ ได้แก่ 1. การพัฒนากำลังคนให้มีความรู้ด้าน AI 2. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (National Data Bank/การพัฒนา Open Source โมเดลภาษาไทย) และ 3. ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ (AI Governance/ความรับผิดทางกฎหมาย/การเปิดเผยเมื่อใช้ AI) ควบคู่การประยุกต์ใช้ AI ในภาคส่วนต่าง ๆ (AI Adoption) ในภาคส่วนสำคัญ อาทิ ภาครัฐ ระบบการเงิน การท่องเที่ยว การเกษตร การค้า และความมั่นคง พร้อมการจัดตั้งความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในลักษณะของกลุ่มภาคีเครือข่าย (Consortium) และจัดตั้ง ศูนย์รวมความเชี่ยวชาญ (Center of Excellence:CoEs) ในสาขาต่าง ๆ เพื่อเร่งรัดการสนับสนุนการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ในแต่ละอุตสาหกรรมและบูรณาการการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ต่อเนื่องด้วยการอัปเดตแนวโน้ม “Big Data and AI Trends Updates 2025–2026” โดย ดร.ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล กรรมการผู้จัดการ KBTG นำเสนอภาพรวมทิศทางที่ AI กำลังเคลื่อนจากโมเดลภาษาทั่วไปสู่ Reasoning Model, World Model และ Agentic AI ที่ลงมือทำงานได้จริง ขณะเดียวกันองค์กรต้องเปลี่ยนผ่านสู่ “AI-Infused Enterprise” ให้พนักงานใช้งาน AI Agent ลงมือทำในทุกขั้นตอนให้มากขึ้น โดยคนเปลี่ยนหน้าที่มาควบคุม / ตรวจสอบ AI Agent แทน พร้อมย้ำความสำคัญของ AI Governance ตามกรอบสากล (เช่น EU AI Act/NIST) หลัก Human-First และการจัดการ “ความรู้” ในองค์กรให้กลายเป็นสินทรัพย์หลักของยุค GenAI ควบคู่แนวทางพัฒนาทักษะคนแบบ Skill-based และแผนยกระดับบุคลากร 3 ระดับคือ Literacy, Mastery และ Excellence

ถัดมาจะเป็นเสวนาหัวข้อ “โอกาสของไทยในยุคที่ Big Data & AI ขับเคลื่อนโลก” มีผู้ร่วมเสวนาได้แก่ ดร.สุนทรี ส่งเสริม (รองผู้อำนวยการ BDI) คุณสถาพน พัฒนะคูหา (CEO Guardian AI) และคุณอรนุช เลิศสุวรรณกิจ (CEO Techsauce) ดำเนินรายการโดย ดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ (ผอ.ฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมฯ BDI) สะท้อนภาพรวมโอกาสของไทยจากฐานโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมือ แอปพลิเคชัน ไปจนถึงผู้ใช้และธรรมาภิบาล AI โดยเสนอให้ไทยเร่งสร้าง “Thailand Champion” ในห่วงโซ่ AI โลก ขณะเดียวกันชี้โจทย์ใหญ่ คือ การสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เป็น “การลงมือทำจริง” ด้วย Milestone และการติดตามผลสม่ำเสมอ พร้อมชูแนวทางโฟกัส Niche ที่ไทยถนัด เช่น เกษตรและสุขภาพ ควบคู่แรงจูงใจ “Thai ใช้ Thai” เพื่อขยายเศรษฐกิจนวัตกรรม

และช่วงสุดท้ายในกิจกรรมช่วงเช้า ดร.สุนทร ศิระไพศาล รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาเครือข่ายวิจัย สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้บรรยายหัวข้อ “AI Literacy รู้ให้เท่าทัน ข้อมูลในยุค AI” โดยให้ข้อเสนอแนะด้านความปลอดภัยไซเบอร์และการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ โดยเน้นประเด็นการรู้เท่าทันข่าวปลอม การประเมินแหล่งที่มาข้อมูล และแนวทางปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงจากการใช้เทคโนโลยีเชิงพลเมืองและเชิงองค์กร

ถัดมาเป็นเวที “What’s Next: อนาคตของโมเดลภาษา LLM” โดยนักวิจัยและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ อาทิ ดร.ศราวุธ คงยัง (NECTEC), คุณคุณัชญ์ พิพัฒนกุล (Typhoon AI, SCB 10X), ดร.แคน อุดมเจริญชัยกิจ (VISTEC) และคุณมติชน มณีกาศ (Float 16) ร่วมวิเคราะห์ทิศทาง Multi-modal, Agentic และโอเพ่นซอร์สภาษาไทย ตลอดจนความสำคัญของการออกแบบผลิตภัณฑ์และการประเมินผล (Evaluation) เพื่อลด Hallucination ด้วยเทคนิคอย่าง RAG และการดีไซน์ประสบการณ์ที่สร้างความน่าเชื่อถือ

ต่อด้วย Keynote สำคัญ “National Big Data Platform: แผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลของประเทศ” โดย ดร.สุนทรีย์ ส่งเสริม รองผู้อำนวยการ BDI นำเสนอโรดแมปแพลตฟอร์มการเชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (ดีทู) ซึ่งทำหน้าที่เป็น “สะพานเชื่อมโยง” ข้อมูลภาครัฐให้ทำงานร่วมกันได้ตามมาตรฐาน เชื่อมต่อกับโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ (เช่น GDCC และ Government Data Catalog) โดยเป็นแพลตฟอร์มแบบไม่รวมศูนย์ข้อมูล และสามารถเปิดผลการวิเคราะห์ในรูปแบบ Open Data ให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่อยอดเชิงนวัตกรรมได้ วางกรอบเริ่มดำเนินการในปี 2568 และเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2569 เพื่อยกระดับการใช้ข้อมูลสู่การตัดสินใจเชิงนโยบายและการพัฒนาบริการสาธารณะ

ภายในงานยังมีการสาธิต “n8n: รวมพลัง AI ด้วย Workflow Automation” และเวิร์กช็อป “Prompt Engineering: ใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น” โดยทีม BDI ที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ลงมือปฏิบัติจริงในการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ตลอดทั้งวัน สะท้อนให้เห็นว่า การขับเคลื่อนประเทศไทยด้วย Big Data และ AI ไม่ใช่เพียงการสร้างเทคโนโลยี แต่คือการสร้าง ‘ความพร้อม’ ของทั้งระบบ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวทันโลกดิจิทัลอย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดทั้งงาน

ในช่วงท้ายของงาน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ประกอบการ ผ่านกิจกรรม Networking เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือใหม่ ๆ ในอนาคต ทั้งนี้ BDI จะดำเนินการจัดงาน BDI – Connect the Dots 2025 ครั้งที่ 3 ในวันที่ 2 ตุลาคม 2568 ภายใต้แนวคิด “Agentic AI in Action” เมื่อ AI ที่ไม่ได้เป็นแค่ผู้ช่วยของมนุษย์ แต่สามารถคิด ตัดสินใจ และลงมือทำงานแทนมนุษย์ได้จริง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เร็ว ๆ นี้ ที่เพจเฟซบุ๊ก BDI – Big Data Institute

Public Relations and Communication Specialist
Big Data Institute (Public Organization), BDI
- Narisara Boonsrihttps://bdi.or.th/en/author/narisara-bo/
- Narisara Boonsrihttps://bdi.or.th/en/author/narisara-bo/
- Narisara Boonsrihttps://bdi.or.th/en/author/narisara-bo/
- Narisara Boonsrihttps://bdi.or.th/en/author/narisara-bo/